การพัฒนาสื่อปฏิสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องยาสมุนไพรไทยในรูปแบบเกม กรณีศึกษา : เกมโอสถพระนารายณ์

Abstract

        งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการพัฒนาสื่อปฏิสัมพันธ์ในรูปแบบเกม 2) ออกแบบเกมที่ สามารถส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องยาสมุนไพรไทย 3) สร้างบรรยากาศบริเวณศูนย์เรียนรู้โอสถพระนารายณ์ ให้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับยุคสมัย ซึ่งสรุปผลการวิจัยคือ การรับรู้ข้อมูลของคนไทยสมัยใหม่จะเสพข้อมูล ข่าวสารผ่านสื่อมากกว่าการอ่านจากหนังสือและทำกิจกรรมที่สร้างความสนุกสนานให้ตนเองมากขึ้นดังเช่น  การเล่นเกม ซึ่งพบว่าเกมสามารถทำให้ผู้เล่นใช้เวลาและอยู่กับกิจกรรมนี้ได้นานโดยไม่เกิดการเบื่อ และจากการศึกษาถึงหลักการออกแบบสื่อปฏิสัมพันธ์ในรูปแบบเกมที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้ทุกเพศทุกวัยส่วนใหญ่ แล้วจะเป็นแนวการ์ตูนน่ารัก และเป็นรูปแบบ SD (Super Deformation) ผู้วิจัยได้นำหลักการนี้พัฒนาสู่ตัวละคร (Character Design) ฉากต่างๆ (Scene Design) ของเกมเพื่อนำเสนอข้อมูลยาสมุนไพรไทยที่คนทั่วไป ควรทราบเพราะเป็นสมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคที่คนไทยมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคหรือมีอาการเหล่านี้สูง ประกอบด้วย ตำรับ 57 ยาทาพระอังคบพระเส้น รักษาอาการปวดเมื่อยเส้นตึงได้ทั่วร่างกาย ตำรับ 58 ยาทาพระเส้น รักษา อาการอัมพาต ตะคริวและจับโปงได้ทั่วร่างกาย และตำรับ 78 น้ำมันมหาจักร รักษาอาการเปื่อยคันและเจ็บปวดจากเสี้ยนหนามหรือของมีคม          ผู้วิจัยได้สร้างสรรค์เกมที่ชื่อว่า“โอสถพระนารายณ์” โดยมีแนวคิดการออกแบบที่แสดงถึง ความร่วมสมัย น่าเชื่อถือและผ่อนคลาย และได้นำแนวคิดนี้มาสร้าง Mood-Tone, Logo, Character Design, Scene  Design และ Interface Design ซึ่งเกมนี้จะเป็นเกมเชิงการศึกษาผู้เล่นจะได้รับความรู้ในส่วนประกอบของยาสมุนไพรในการรักษาโรค ในเกมผู้เล่นจะรับบทเป็นคุณหมอเพื่อเลือกรักษาอาการเจ็บป่วยของคนไข้ได้ครั้งละ  1 อาการ จาก 3 อาการ เมื่อเลือกอาการมาแล้วจะต้องผสมยาตามสูตรของตำรับ พระโอสถพระนารายณ์ เมื่อเล่นจบนอกจากผู้เล่นจะได้รับความสนุกสนานแล้วยังได้รับรู้ข้อมูลยาสมุนไพรไทยจากการมีส่วนร่วมในการจดจำตัวยาสมุนไพรไทย ตลอดจนเป็นการสร้างบรรยากาศภายในศูนย์เรียนรู้โอสถพระนารายณ์ และให้รู้สึกถึงความผ่อนคลาย ตลอดจนยังแสดงถึงความก้าวหน้า ในการพัฒนาให้ทันยุคทันสมัยได้อย่างชัดเจน ซึ่งสามารถสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดการสนใจยาสมุนไพรไทยหรือสร้างแรงบันดาลใจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับยาสมุนไพรไทยได้          This research has the following objectives: 1) To study the interactions in the game form. 2) To design a game that can promote the learning of Thai herbal medicines. 3) To create an atmosphere and provide a suitable environment for the era at the Osoth Phranarayn Learning Center. The result of this research is the perception of modern Thai people which they are engaging information over the media rather than reading the book and doing more entertaining activities such as playing games. This can be long without boredom and from the study of the principle of interactive design in the game form that can reach people all ages, most of them are cute cartoon and it's an SD (Super Deformation) format. Researchers have developed this principle to design characters in various scenes for the game to present Thai herbal medicines that people should know because of the potential for these diseases or high symptoms. The consisting of 57 recipes for treatment of pain on the strains throughout the body, recipe 58 parabens for treatment line paralysis, cramps and over the body 78 and oil mass for treatment canker and the pain of burr or sharp knife.          The researcher created a game called “Osoth Phranarayn”, a design concept that depicts contemporary, trustworthy and relaxing. This concept has brought into Mood-Tone, Logo, Character Design, Scene Design and Interface Design. This game is an educational game; players will gain knowledge from the components of herbal medicine to treat the disease. In the game, the player will plays a doctor to choose the treatment of the illness for one patient as a time, from 3 symptoms. When the symptoms come, they must be mixed according to the formula of the Phranarayn. Upon completion of the games, players will be entertained and they will also be informed and recognited about the Thai herbal medicines from participation. As well as creating an atmosphere with the feeling of relaxation for the Osoth Phranarayn Learning Center The development of the era is clear and show progress with that can stimulate interest in Thai herbal medicines or other inspiration related to Thai herbal medicines.