"ซ้อนรอยแปรง...โปร่ง...บาง...สร้างสรรค์สีฝุ่น"

Abstract

สีฝุ่น เป็นสิ่งที่มนุษย์ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ นำมาเขียนภาพจิตรกรรมบนผนังถ้ำเพื่อถ่ายทอดความเชื่อและศรัทธาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มองไม่เห็น เพื่อปรารถนาให้ชีวิตของตนปลอดภัย มีความสุขและพืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ ส่งผลเชื่อมโยงมาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์ซึ่งเคารพบูชา ตอบสนองความเชื่อทางศาสนารวมทั้งอุดมคติ ความต้องการเฉพาะกลุ่มศิลปินชนชาติตะวันตกนั้นเริ่มประวัติศาสตร์จากอียิปต์ ที่สร้างผลงานจิตรกรรมสีฝุ่นเพื่อความเชื่อในเทพเจ้าและเทพธิดารวมทั้งความเป็นอมตะของชีวิต ซึ่งได้พัฒนามาเป็นลำดับสู่ความศรัทธาศาสนาคริสต์ในสมัยคริสต์ศิลป์ตอนต้นและไบแซนไทน์ รุ่งเรืองในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา เสื่อมถอยลงในสมัยบาโรกและโรโกโก ส่วนสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19-20 ศิลปะได้แยกย่อยออกเป็นกลุ่มศิลปินชาติต่าง ๆ ซึ่งได้พัฒนาการเขียน ระบายสีฝุ่นในรูปแบบที่หลากหลาย ตามความต้องการเฉพาะตนอย่างอิสระเสรี ชนชาติตะวันออก ได้ใช้สีฝุ่นระบายเขียนภาพ สะท้อนถึง ปรัชญาของชีวิตและอุดมคติ เช่น ภาพเขียนของจีนซึ่งให้อิทธิพลด้านความเชื่อและรูปแบบแก่ญี่ปุ่น ส่วนอินเดียนั้นได้ให้อิทธิพลด้านศิลปะแก่ชนชาติตะวันออกโดยผสมผสานเชื่อมโยงกับการเผยแผ่ศาสนาพุทธและศาสนาฮินดูในดินแดนแถบสุวรรณภูมิ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย เราจะสามารถเห็นและศึกษาจิตรกรรมสีฝุ่นของไทยในศาสนาสถาน รวมทั้งการเขียนระบายสีภาพของศิลปินสกุลช่างในภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งได้พัฒนามาเป็นลำดับจากอดีตในสมัยสุโขทัย สู่สมัยของกรุงศรีอยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่งได้ก้าวหน้าและแยกย่อยออกเป็นจิตรกรรมสีฝุ่นแบบต่าง ๆ มากมายตามความชอบ ความถนัดของศิลปินเฉพาะบุคคล การสร้างสรรค์จิตรกรรมสีฝุ่นของข้าพเจ้า ได้รับความบันดาลใจจากสิ่งของเครื่องใช้ อันเก่าแก่ซึ่งตกทอดมาจากบรรพบุรุษรวมทั้งสถานที่ซึ่งมีความผูกพัน ตลอดจนลวดลายอัน งดงามประณีต สะท้อนถึงวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองจากอดีต ถ่ายทอดด้วยการระบายสีฝุ่นโดย ซ้อนรอยแปรงที่ละสีแต่ละชั้นอย่างโปร่ง...บาง เพื่อแทนค่าความนุ่มนวล กลมกลืนและความสุขสงบ ในอดีตที่ผ่านมา  Powder color was used to paint on the caves since Pre-Historic Period to reveal their believes and faith for the invisible god for surviving and fertility. These influenced Historic Period later, which people paid respect their religion, idealism and needness of the artists. Western civilization had begun from Egypt which painted on the wall of their tombs to sacrifice for gods, goddesses and immortality. From the beginning, the powder color painting was developed to serve for the belief of Christianity for Early Christian and Byzantine Art. It was fluorished in Renaissance style, became the unaesthetical painting in Baroque and Rococo Period. After the 19th and 20th century, art circle became seperated in many individual styles which they had developed powder color painting in the freely different types. For the eastern civilization, they painted powder color to reveal their philosophy, idealism as we had seen in many famous Chinese painting which influenced Japanese art later. Important original country that spreaded Buddhism religion and Hinduism with their art of painting was India. Indian art had influenced strongly in the Suwarnabhumi land, including Thailand, in which we can appreciate powder color painting from the temples and artists work from every part of Thailand. The powder color painting had developed from Sukhothai Period to Ayudhaya and Rattanakosin style, which painting had developed and seperated in many individual styles freely. Basically my powder color painting was inspired by my life style which surrounded by many beautiful and precious detailed objects. These had appreciated my deep soul to paint in many layers of transparent and delicate powder color to reveal the suppleness, harmony and serenity in the glorious past of Thailand.