บ้านเรียนมรดกใหม่: การให้การศึกษาแบบองค์รวมผ่านละคร

Abstract

บทคัดย่อ         การวิจัยเรื่อง บ้านเรียนมรดกใหม่: การให้การศึกษาแบบองค์รวมผ่านละคร มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิธีการจัดการเรียนการสอนของบ้านเรียนมรดกใหม่เรื่องวิธีการให้ความรู้แบบองค์รวมผ่านละครแก่เยาวชน รวมถึงพัฒนาการของบ้านเรียนมรดกใหม่และความแตกต่างจากบ้านเรียนอื่น ใช้แนวทางการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้ขอบเขตด้านเวลา คือ พ.ศ. 2549 – พ.ศ. 2555 ผลการศึกษาพบว่า บ้านเรียนมรดกใหม่เป็นสถานศึกษาขนาดเล็ก มีรักเรียนประมาณ 40 คน และครู 16 คน ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเรียนการสอน ใช้รูปแบบของบ้านเรียนประยุกต์ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของนักการละคร ซึ่งพัฒนาจากการเป็นคณะละครที่ผลิตละครเวทีสัญจรเพื่อการศึกษา โดยก่อนกน้านั้นภายใต้การนำของ อาจารย์ประคัลภ์ จันทร์เรื่อง คณะละครมรดกใหม่มีวัฒนาการจากรายการโทรทัศน์ มาสู่ละครเวทีเชิงพาณิชย์ จนค้นพบแนวทางของการใช้ละครเพื่อพัฒนาและสนับสนุนการศึกษาในระบบจบถึงการใช้ละครเพื่อสร้างการศึกษาเรียนรู้แบบองค์รวม ทั้งในมิติการใช้ชีวิตและกาทำงาน สร้างหลักสูตรเฉพาะคนและผ่านการรับรองจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 1 จังหวัดปทุมธานี ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ การให้การศึกษาแบบองค์รวมของบ้านเรียนมรดกใหม่มีวิธีการคือ ใช้ละครเป็นจุดเริ่มต้น นักเรียนจะได้เรียนรู้วิชาต่างๆ ทั้งแปดกลุ่มสาระการเรียนรู้ผ่านการแสดงละครในเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของวิชานั้นๆ จากนั้นครูผู้สอนจะเชื่อมโยงและอธิบายเนื้อหาวิชาต่างๆ ให้กับนักเรียน รวมทั้งการให้นักเรียนเป็นผู้สร้างละครด้วยตัวเอง บ้านเรียนมรดกใหม่มีวิธีการศึกษาแบบผสมผสานหลายวิธีดังนี้ ศึกษาโดยยึดหลักปรัชญา 6 ข้อของคณะมรดกใหม่ ได้แก่ (1) พร้อมใจกันทำพร้อมใจกันเลิก (2) ทำแล้วทำเล่าจนทำได้ (3) อยู่อย่างต่ำทำอย่างสูง (4) แผ่วที่ผล ทำมี่เหตุ (5) ไม่มีเรื่องเล่าที่เล่า ไม่ได้มีแต่นักแสดงที่เล่าไม่เป็น (6) เป็นอย่างที่กิน เป็นอย่างที่อ่าน เป็นอย่างที่สอน ปรัชญาทั้ง หกข้อนี้เป็นทั้งการฝึกฝนและกฎระเบียบไปในตัว ศึกษาด้วยหลักอาวุโสและการ DRILL (การฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง) เรียนรู้จากการใช้ชีวิตระบบสำนัก เคารพรุ่นพี่และผู้อาวุโส ฝึกฝนทักษะของตนอย่างต่อเนื่อง ศึกษาด้วยองค์ประกอบของละคร วิเคราะห์ นักแสดง เรื่องราว คนดู ตามวิธีการของคณะละครมรดกใหม่ เชื่อมโยงวิธีคิดของตัวละครกับสถานการณ์จริงในปัจจุบันของสังคม เปรียบเทียบครอบครัวของตัวเอง ชุมชน สิ่งแวดล้อมกับเรื่อราวในละคร ศึกษาด้วยการเชื่อมโงแปดกลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ (1) ศึกษาบทละครแลการเล่นละคร (2) ศึกษาผ่านการเดดินทางในวิถีชีวิตของการเป็นนักการละคร (3) ศึกษาผ่านการอ่านหนังสือ (4) ศึกษาผ่านบทเพลง (5) ศึกษาผ่านภาพยนตร์ (6) ศึกษากับวิทยากรพิเศษที่มีความสามารถเฉพาะทางนั้นๆ วิธีการเชื่อมโยงปดกลุ่มสาระการเรียนรู้นี้จะเลือกวิธีการศึกษาโดยพิจารณาจากความพร้อม ความสนใจ และทักษะของผู้เรียนที่แตกต่างกันไป และในด้านความแตกต่างจากบ้านเรียนอื่นๆ นั้น บ้านเรียนมรดกใหม่มีวิธีการสอนที่ผสมผสานและมีเอกลักษณ์รวมทั้งมีการรวมเด็กบ้านเรียนมาเรียนร่วมกันซึ่งแตกต่างจากบ้านเรียนปกติที่จัดการศึกษาโดยครอบครัว สถานศึกษาที่มีรูปแบบใกล้เคียงคือ โรงเรียนภัทราวดีมัธยมศึกษา มีการใช้ละครเชื่อมโยงและบูรณาการแปดกลุ่มสาระเช่นเดียวกัน แต่ต่างกันที่จดทะเบียนเป็นโรงเรียนสามัญ ในด้านผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาบ้านเรียนมรดกใหม่มีนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาระกับมัธยมศึกษาตอนปลายสองรุ่น รุ่นแรกเจ็ดคน (พ.ศ. 2553) จบแล้วก็แยกย้ายกันไปรุ่นที่สองเจ็ดคน (พ.ศ. 2554) สามารถสอบเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยวิศวะภารดี เมืองสานตินิเกตัน ประเทศอินเดีย สาขาวิชาการละครทั้งหมด  ABSTRACT          The objective of this research is to stud the methods of Moradokmai Home School on using theatre as a holistic education medium for youth and it results. And to study the difference between Moradokmai Home School and other home School. This study is a qualitative research conducted from 2008 to 2012.          The results founded that Moradokmai Home School is a small educational institute, with about 40 students and 16 teachers. There is no tuitions fee; the home schooling system is developed from a touring educational theatre group led by Janapakal Chanruang. Moradokmia  Theatre Group Started of by producing television programs, then transformed into a commercial theatre group and later evolved into the current educational and development theater group which use theater as a holistic education medium. The curriculum is approved by the Patumthani District 1 Education Board under the Ministry of Education. The methods started with theatre as its foundation, students will learn the eight group study branches via theatre story that that related to those study branches, then the teachers will explain the subject to the students. The method are developed around 6 core value (1) Do it together, Finish it together, Z2X Do it until you can do it, (3) Live low, Act high, (4)Forget the result, focus on the cause, (5) There are on story that cannot be told, only incapable storyteller, (6) Be as you eat, be as you read, be as you teach. These 6 core values are both rules and practices. The learning methods are based on seniority and drill (continuous practices) – students learn to respect their senior and elder, continuously developing their skills, prepared to connect different body of knowledge, analyzing theatre elements – actor, story, and audience – by the Moradokmai ways, comparing the situation of the characters in the story with the current situation in the society, learned about themselves, the community, and the environment. The eight braches of study are also learned by (1) Via theater play (2) via traveling as a dramatist, (3) via reading, (4) via music, (5) via movies, (6) via special lecture with specialized skills and knowledge. The students are selected to study each braches based on their individual skills, interest, and readiness, which is different from other home school. Moradokmai Home School has a integrated and distinctive system which brings home schooling students together, comparing to the home school managed by family. Similar education institute is Patravadee High School, which used theater as a medium to learn eight study braches, but it is licensed as a regular school. Moradokmai Home School have rwo class which already graduated – Class of 2010. With 7 students, and class of 2011, with 7 students which can get into viava Bharasit University, Santiiketan, India.