กลยุทธ์การเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นของนิสิตวิชาเอกภาษาญี่ปุ่น คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
Keywords:
กลยุทธ์เรียนรู้, ปัญหาการเรียนรู้, ภาษาญี่ปุน, นิสิตวิชาเอกภาษาญี่ปุนAbstract
บทคัดยอ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากลยุทธ์และปัญหาการเรียนรู้ภาษาญี่ปุนของนิสิตวิชาเอกภาษาญี่ปุน ภาควิชาภาษาตะวันออก คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาเพื่อนำผลการวิจัยไปเป็นแนวทางในการพัฒนา ปรับปรุงการเรียนการสอนและพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัยประชากร คือ นิสิตชั้นปีที่ 1-4 วิชาเอกภาษาญี่ปุน ปีการศึกษา 2553-2556 รหัส 53-56 จำนวน 135 คน รวบรวมข้อมูลโดยแจกแบบสอบถามการใช้กลยุทธ์การเรียนภาษาญี่ปุนซึ่งเรียบเรียงและดัดแปลงจากแบบสอบถามชื่อ Strategy Inventory for Language Learning (SILL) ของ Oxford (1990) โดยให้นิสิตกรอกจำนวน 135 ฉบับ และได้รับตอบกลับมาจำนวน 135 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 100 ของแบบสอบถามการวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติแบบพรรณนา เพื่อบรรยายลักษณะของข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหา ค่าเฉลี่ย (X) ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) ผลการวิจัยพบว่าการใช้กลยุทธ์การเรียนภาษาญี่ปุนทั้ง 6 ด้าน ของนิสิต ชั้นปีที่ 1-4 วิชาเอกภาษาญี่ปุน ปีการศึกษา 2553-2556 อยู่ในระดับมากส่วนกลยุทธ์ที่นิสิตใช้มากที่สุด คือ กลยุทธ์การทดแทน รองลงมา คือ กลยุทธ์ที่นำไปสู่ความสำเร็จ ส่วนปัญหาและอุปสรรคในการเรียนรู้ภาษาญี่ปุนของนิสิตอยู่ในระดับปานกลาง ปัญหาและอุปสรรคในการเรียนรู้ภาษาญี่ปุนในระดับมาก คือ พูดเร็วฟังไม่ทันฟังไม่เข้าใจ รองลงมา คือ ฟังเข้าใจแต่โต้ตอบไม่ได้ Abstract This study is aimed to study Japanese language learning strategies and problems of first-year t fourth-year students majorin in Japanese Language, Faculty of Humanities and Social Sciences, Burapha University. The sample for the study were major Japanese language students Faculty of Humanities and Social Sciences, Burapha University. Year 2010 - 2013 of 135 persons by questionnaire as a tool to collect statistics. The questionnaire was adapted from the Oxford’s Strategies Inventory of Language Learning (SILL) to suit for Japanese language learning. This questionnaire consists of 6 categories: memory strategies, cognitive strategies, compensation strategies, metacognitive strategies, affective strategies and social strategies. The data was analyzed to find means, standard deviation. The results showed that the students used all of strategies in high level. The most frequently used among the students was compensation strategies and followed by metacognitive strategies. Speaking too fast and it is hard to listen were the most problems for studying Japanese language followed by understanding the conversation but cannot answer. The results of the study also indicated that the relation between gender, class level, age, Japanese language study experience, Japanese language study school, The Japanese-Language Proficiency Test (JLPT) and students' Japanese language learning strategies did not show significant differences on the use of strategies.Downloads
Issue
Section
Articles