การปฏิวัติคิวบาและสงครามสเปน – อเมริกา
Keywords:
การปฏิวัติ, มหาอำนาจระดับโลก, ลัทธิจักรวรรดินิยม, คิวบา, สหรัฐอเมริกาAbstract
บทความนี้มุ่งจะศึกษาการเข้าสู่สงครามกับสเปนของสหรัฐอเมริกา (ศ.ศ. ๑๘๙๘) ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การดำเนินนโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา เหตุที่มาของสงครามนี้เกิดจากการปฏิวัติในคิวบาในปี ๑๘๙๕ ซึ่งเป็นความพยายามของชาวคิวบาที่จะขจัดการปกครองของสเปนออกไป สหรัฐฯ เข้าแทรกแซงเหตุการณ์การปฏิวัตินี้ ด้วยเหตุผลทางด้านมนุษยธรรม คือต้องการให้สเปนยุติการปกครองที่กดขี่ในคิวบา การแทรกแซงได้นำไปสู่การประกาศสงครามกับสเปน สงครามส่งผลสัพธ์อย่างมหาศาลต่อคู่ต่อสู้ทั้งสอง สเปนสูญสิ้นความเป็นจักรวรรดิอาณานิคมที่ยิ่งใหญ่ของตนที่มีมานาน ส่วนสหรัฐฯ ก็ขยายอำนาจเข้าครอบครองดินแดนต่างๆ ในทะเลแคริบเบียนและในแปซิฟิก อันเป็นการยกฐานะของตนเองขึ้นสู่ความเป็น “มหาอำนาจระดับโลก” ทั้งหมดนี้ สำเร็จเสร็จสิ้นในช่วงเวลาที่นับได้ว่าสั้นที่สุด และเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดประวัติศาสตร์สงครามที่เคยมีมา กระนั้นก็ดี การเป็นมหาอำนาจระดับโลกดังกล่าว มิได้ทำให้สหรัฐฯ เข้ารับภาระในการรับผิดชอบสิ่งใหม่อันใดในระดับโลก ในช่วงทศวรรษแรกของศตวรรษที่ยี่สิบที่ติดตามมา สหรัฐฯยังแสดงให้เห็นว่า มีความระมัดระวังในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ และหลีกเลี่ยงการเข้าพัวพันและทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลต่างชาติ อันเป็นแนวทางที่เคยดำเนินมาแต่เก่าก่อนกระนั้น สงครามครั้งนี้ก็ยังนับได้ว่า เป็นหลักหมายที่สะท้อนถึงทิศทางการดำเนินนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป สหรัฐฯ มิได้เป็นประเทศที่โดดเดี่ยวตนเองอยู่ภายในเขตแดนของประเทศตนเท่านั้น แต่เข้าร่วมกิจกรรมล่าดินแดนอาณานิคมและตลาดต่างประเทศเช่นเดียวกับมหาอำนาจยุโรปอื่นๆ ทว่า ความสนใจในการล่าอาณานิคมของสหรัฐฯ มีอยู่เพียงขณะหนึ่งภายหลังสงครามเท่านั้น หลังจากนั้นมา สหรัฐฯ มิได้ยึดดินแดนอาณานิคมใด ๆ อีก กล่าวได้ว่า การแสวงหาดินแดนอาณานิคมของสหรัฐฯ เป็นเพียงสัญลักษณ์และผลลัพธ์ของทัศนคติและท่าทีใหม่ที่มีต่อโลก ซึ่งเกิดจากสภาวการณ์แวดล้อมทั้งภายในประเทศและนานาชาติที่เปลี่ยนแปลงไป This article aims to study a turning point in American foreign policy marked by the Spanish-American War in 1898. The war thus begun for motives that primarily humanitarian and sentimental-to help the Cubans in their fight against the Spanish oppressive rule-was to have momentous consequence for both Spain and the United States. For Spain it meant the loss of the last remnants of its once great colonial empire. To the United States it brought the sudden assumption of unprecedented imperial responsibilities and the elevation to the status of “world power,” And all this was accomplished in one of the shortest and least costly wars in history. However, the acquisition of overseas territories in the Caribbean and the Pacific did not cause the United States ‘s assumption of new world responsibilities. In the first decade of the 20th century that followed, American diplomacy was essentially cautious and pragmatic in its relations with foreign governments. Nevertheless, the war did encapsulate the directions of the United States foreign policy. The United States ceased to be a land-bound and isolationist nation and be among the great European powers in the hunt for territories and foreign markets which were the order of the day. But the Americans were more tentative in their drive to annex colonies than did the European. And though the interest in foreign markets remained intense, the urge to add colonial possession soon passed. The acquisition of overseas territories was thus rather the result and symbol of the United States new attitude toward the world. Perhaps, this new attitude was less a reflection on the policy change on the part of the United States than on the transitional nature of contemporary world economy and international affairs.Downloads
Published
2024-04-22
Issue
Section
Articles