Sociocultural Theory and Its Contributions to ESL/FL Classroom Research and Instruction

Abstract

Vygotsky’s sociocultural theory is originated from his ideas and works emphasizing on consciousness; thus, making his theory different from behavioral and nativist theories. Unlike behaviorism and nativism, this theory views social interaction as the key factor for human beings to develop their consciousness and cognition. Through interaction with more knowledgeable persons and with the support of cultural tools or arifacts (physical and abstract thing), anindividual transforms from other-regulation to self-regulation-the state that this individual can do things on his/her own. The process of this transformation is apparent under the three significant constructs of this theory, namely-the Zone of Proximal Development, Activity Theory, and Private Speech. Based on this concept, the sociocultural theory significantly contributes to the field of education, especially to ESL and EFL classroom instruction and a large scale of ESL and EFL research.  ทฤษฎี sociocultural มีจุดกำเนิดมาจากความคิดและงานของ Vygotsky ที่เป็นในเรื่องของภาวะจิต หรือความตระหนักในความคิดและความรู้สึกก่อนทำให้ทฤษฎีนี้แตกต่างจากทฤษฎี behavioral และ nativist โดยทฤษฎี sociocultural นี้ ให้ความสัมพันธ์กับการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของมนุษย์ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การพัฒนาของภาวะจิตและปัญญา เนื่องเพราะการปฏิสัมพันธ์ของสังคม โดยเฉพาะกับผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์มากกว่าพร้อมกัน การเอื้อประโยชน์ของวัตถุทางสังคม ทำให้ปัจเจกบุคคล เปลี่ยนแปลงจากการถูกชี้นำหรือควบคุมโดยผู้อื่นมาสู่การชี้นำและควบคุม อันเป็นภาวะที่ทำให้บุคคลนั้นสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตนเองขบวนการของการเปลี่ยนแปลงนี้สามารถเห็นได้ชัดเจนผ่านโครงสร้างย่อยของทฤษฎีที่สำคัญ ๓ โครงสร้าง คือ Zone of Proximal Development, Activity Theory และ Private Speech แนวความคิดนี้ ทำให้ทฤษฎี Sociocultural เอื้อประโยชน์อย่างมากามายต่อวงการการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อการเรียนการสอนในชั้นเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศ (และต่องานวิจัย)