การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร : การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย

Authors

  • เอกวิทย์ มณีธร

Keywords:

การมีส่วนร่วมทางการเมือง, การเมือง, การเลือกตั้ง, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

Abstract

การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยนั้นเป็นการปกครองของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน ที่มุ่งเน้นอุดมการณ์สำคัญในเรื่องของความเสมอภาค เสรี ภารดรภาพและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ซึ่งการมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาระบบการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย เพราะการมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็นดัชนีชี้วัดที่สำคัญประการหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย สังคมใดจะมีระดับความเป็นประชาธิปไตยสูงหรือต่ำสามารถพิจารณาได้จากระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนสังคมที่มีระดับการมีส่วนร่วมสูง ย่อมมีระดับความเป็นประชาธิปไตยสูง ในทางตรงกันข้ามถ้าสังคมใดมีระดับการมีส่วนร่วมต่ำ แสดงว่าสังคมนั้นมีระดับความเป็นประชาธิปไตยต่ำ โดยนัยนี้อาจถือได้ว่าการพัฒนาทางการเมือง คือ การทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองความสำเร็จของการพัฒนาทางการเมืองความสำเร็จของการพัฒนาทางการเมืองจึงขึ้นกับระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนเป็นสำคัญ ดังนั้นการมีส่วนร่วมทางการเมืองจึงเป็นเป้าหมายของการพัฒนาทางการเมืองโดยตรง โดยเฉพาะการพัฒนาทางการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยนั้นมีหลายรูปแบบ เช่น การชักจูงผู้อื่นให้เลือกตั้งผู้ที่ตนสนับสนุน การบริจาคเงินสนับสนุนทางการเมือง การชุมนุมทางการเมือง การเป็นสมาชิกของพรรคการเมือง การสมัครรับเลือกตั้ง การใช้สิทธิเลือกตั้ง ฯลฯ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการเลือกบุคคลตามความต้องการสู่กระบวนการทางการเมือง ซึ่งเปิดโอกาสให้บุคคลที่ดีมีความสามารถได้เข้าไปทำงานทางการเมือง โดยผ่านการเลือกตั้งจากประชาชนเพื่อเข้ามาทำงานฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ การเลือกตั้งเป็นกิจกรรมที่สำคัญยิ่งในกระบวนการทางการเมืองและการปกครองเพราะการเลือกตั้งเป็นการแสดงออกซึ่งเจตจำนงของประชาชนในการปกครองประเทศรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มีเจตนารมณ์ให้ประชาชนชาวไทยมีส่วนร่วมในการเลือกตัวแทนเข้าสู่ระบบการเมืองการปกครอง โดยกำหนดให้บุคคลที่มีสิทธิเลือกตั้งมีหน้าที่ต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งจำนวน ส.ส.ของประเทศไทยที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันคือ 480 คนโดยแบ่งเป็น 2 ประเภท อันได้แก่ ส.ส. ซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวน 400 คน และ ส.ส. ซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบสัดส่วนจำนวน 80 คน การเลือกตั้ง ส.ส. ให้ใช้วิธีออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ โดยให้ใช้บัตรเลือกตั้ง ส.ส. แบบละหนึ่งใบ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้ส่งเสริมให้ปวงชนชาวไทยมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ส.ส. ที่แม้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบวิธีการจากเดิมไปบ้างแต่ก็ยังคงมีความสำคัญอยู่เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้คะแนนเสียงของประชาชนเป็นเสมือนเสียงสวรรค์ ที่จะเลือกสรรบุคคลไปทำหน้าที่ในการบริหารจัดการบ้านเมืองให้ธำรง/ดำรงคงอยู่และเจริญ พัฒนาแทนตนเองแบบมีสัญญาประชาคมต่อกัน ดังนั้นทุกคนจึงควรตระหนักถึงความสำคัญของการไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อคัดสรรตัวแทนที่ดีมีคุณภาพและคุณธรรมเข้าสู่ระบบการบริหารจัดการของรัฐตามวัตถุประสงค์ของการปกครองระบอบประชาธิปไตย  The study is the observation of the process and political behavior in the election of Chon Buri senators in 2006. The objectives of this study are as follows; (1) To know the general atmosphere of the election. (2) To study roles and working of the Chon Buri Election Commission. (3) To specify problems difficulties and solutions in the election. (4) To study the political behaviors of the candidates running for the election. (5) To study the roles of the government, public and private organizations related to the election. (6) To know the political behaviors of the people. Especially those relates to the senator election (7) To suggest ways to improve the process of the senator election as one of the mechanisms for the democratic consolidation in Thailand.  The author divides the time frame of the study into 3 parts, that are (1) the period of three months before the election (three mouth before the promulgation of royal decree on the election day), (2) the election day, and (3) the period of three months from the day after the election to the day that Chonburi Election Commission formally certified the election result.  Regarding research methodology, the author takes qualitative methods, such as, documentary analysis, observation and in-depth interviews with those related to the election. The findings of this study are as follows; The election was in a normal state. There was no obstacles to the election process administered by Chon Buri Election Commission and related organizations. Political participation and people rate of interest were average. The political behaviors of the candidates were in a normal state. The level of competition was not high. The atmosphere of the election was rather quiet. The election was not as enthusiastic as the previous one.

Downloads

Published

2024-05-17