การศึกษาระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือดโดยเครื่องมือชนิดอีคิวเอ็ม เทสต์คิต ในกลุ่มเกษตรกรในเขตอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี

Authors

  • อนามัย ธีรวิโรจน์
  • จิตรพรรณ ภูษาภักดีภพ

Keywords:

โคลีนเอสเทอเรส, เกษตรกร, สุขภาพและอนามัย

Abstract

          การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะของข้อมูลทั่วไป และการปฏิบัติที่เกี่ยวกับการป้องกันการสัมผัสศัตรูพืช กับอาการเจ็บป่วยจากการใช้สารปราบศัตรูพืชของเกษตรกรในเขตอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา คือ เกษตรกร จำนวน 129 คน เก็บข้อมูลโดยการใช้แบบสัมภาษณ์และเจาะเลือดตรวจหาระดับระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือดของเกษตรกร โดยเครื่องมืออีคิวเอ็ม เทสต์คิต วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS/PS+สถิติที่ใช้คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบความสัมพันธ์โดยใช้สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ไควสแคว์          ผลการศึกษาพบว่าเกษตรกรโดยส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุเฉลี่ย 47.74 ปี การศึกษาอยู่ในระดับ ป.2-ป.6 106 คน (82.2%) ไม่ดื่มสุราและไม่สูบบุหรี่ 73 คน (56.6%) และ 110 คน (85.3%) ส่วนใหญ่มีการใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ ขณะผสมสารหรือใช้สารปราบศัตรูพืช 55 คน (70.5%) โดยนิยมสวมหน้ากาก ถุงมือ เสื้อคลุม รองเท้า และหมวกตลอดเวลาที่ทำงาน ส่วนแว่นตาจะสวมเพียง ¼ วัน ผลการตรวจวัดระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือด 51 คน (41.1%) คน มีระดับต่ำกว่าเกณฑ์ปกติเล็กน้อย ในด้านการหาความสัมพันธ์นั้น พบว่าลักษณะของข้อมูลทั่วไปมีเพียงเพศเท่านั้นที่มีความสัมพันธ์ต่อการสวมเสื้อผ้าและรองเท้าที่ทำงานแยกจากเสื้อผ้าที่ใช้ตามปกติ (P-value = 0.025) นอกจากนั้นพบว่าการสูบบุหรี่มีความสัมพันธ์ต่อระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือด (P-value = 0.017) ระดับเอสไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือดเกษตรกรนั้นยังมีความสัมพันธ์ต่อการเจ็บป่วยในปัจจุบันที่ปอดแต่ไม่มีความสัมพันธ์ต่ออาการเจ็บป่วยอื่น ๆ ภายในร่างกาย ผลการควบคุมคุณภาพเครื่องมือชนิดอีคิวเอ็ม เทสต์คิต พบว่าระดับอุณหภูมิของบรรยากาศในภาคสนามและในห้องปฏิบัติการมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 95%(P-value = 0.000) แต่ผลการตรวจวัดระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือดทั้งสองกลุ่มไม่แตกต่างกันที่ระดับความเชื่อมั่น 95%(P-value = 0.743) การศึกษาในครั้งนี้สามารถนำผลการศึกษาไปประเมินความเสี่ยงความเป็นพิษจากสารปราบศัตรูพืชในกลุ่มเกษตรกรพื้นที่ต่าง ๆ ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เพื่อป้องกันอันตรายจากสารปราบศัตรูพืชกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟตและคาร์บาเมตต่อไป          The purpose of this study was to determine the relationship between population characteristics and behavior related to pesticides application and current illness and plasma cholinesterase level among agricultural workers in Amphoe Muang, Chonburi. 129 subjects were interviewed and blood specimens were collected to determine plasma cholinesterase levels using EQM test kit. The majority of the workers were female with the average age of 47.74 years old. Education level was mostly primary school. 82.2% did not drink alcohol and 56.6% did not smoke. Most subjects 70.5% used masks, gloves, work clothes, shoes and caps while applying pesticide. Goggles were used ¼ of the day. 41.1% of blood specimens had plasma cholinesterase below normal range. The result revealed that sex was related to the separation of work clothes and work shoes, from other clothes and shoes (P-value = 0.003 and P-value = 0.025 at 95% CI), smoking and plasma cholinesterase (P-value = 0.017), lung diseases and plasma cholinesterase (P-value = 0.020). The result also revealed that air temperature difference between field and laboratory environment had no effect on the precision of the test kit (P-value = 0.743). In conclusion, the kit can be used for field screening of organophosphate and Carbamate toxicity.

Downloads