ข้อสันนิษฐานทางกฎหมายในการเป็นผู้สนับสนุนในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ
Keywords:
ยาเสพติด, ข้อสันนิษฐาน, กฎหมาย, ความผิดAbstract
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดข้อสันนิษฐานทางกฎหมายเพื่อสร้างความร่วมมือของประชาชนในการป้องกันและปราบรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ประเทศไทยมีกฎหมายที่เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหลายฉบับ แต่รัฐยังไม่สามารถควบคุมและกำจัดความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเหล่านี้ได้ ผู้กระทำความผิดโดยมากกระทำความผิดในที่ลับ อย่างไรก็ตามการกระทำประเภทนี้ไม่อาจกระทำได้โดยลำพัง ดังนั้นการกระทำจึงต้องมีผู้รู้เห็น ไม่ว่าอาจเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดเอง ผู้สนับสนุน ผู้ที่ได้รับประโยชน์ รวมทั้งที่ทราบการกระทำดังกล่าว แต่เทื่อประชาชนที่เป็นผู้รู้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวไม่แจ้งเหตุให้แก่เจ้าพนักงาน ซึ่งไม่ว่าอาจเกิดจากวัฒนธรรมที่ไม่ใส่ใจผิอื่น หรือเกรงกลัวอิทธิพลของผู้กระทำความผิดดังกล่าวได้ ดังนั้นรัฐจึงต้องสร้างมาตรการทางกฎหมายให้สาธารณชนมีส่วนร่วมด้วยการรายงานข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ในคามผิดนี้ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 70 และมาตร 71 ได้กำหนดหน้าที่ของประชาชนให้ร่วมกันป้องกันความมั่นคงของรัฐ ดังนั้นจึงควรกำหนดเป็นข้อสันนิษฐานทางกฎหมายว่า “หากผู้ใดทราบหรือมีเหตุควรเชื่อว่าทราบว่ามรการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ และไม่แจ้วต่อเจ้าพนักงาน ให้สันนิษฐานว่าผู้นั้นสนับสนุนการกระทำความผิดเกี่ยวหับยาเสพติดให้โทษ” วัตถุประสงค์ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย คือ เพื่อเป็นการสร้างมาตรการที่เข้มแข็งในการกำหนดหน้าที่ของประชาชนในการแจ้งเหตุดังกล่าว ซึ่งจะนำไปสู่การป้องกกันและปราบปรามการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป The purpose of this article id Stipulate the legal assumption to sock people collaboration on the prevention and suppression of offences relating to drugs. In Thailand there are many laws specifically concerning prevention and suppression of narcotics. Nonetheless, the government is still unable to control and get rid of these drug offences. Most offenders are committed in secret. However, this type of offences cannot be solely committed crimes. There must be people who know about the offences. They may be accomplices, accessories receivers of benefits or witnesses may be parties criminals, accessories, or a certain number of people. Some witnesses of the offences, are not willing to inform the authorities. This witnesses of the offences, are not willing to inform the authorities. This unwillingness may arise from the culture of ignoring others or from fear of the offenders’ influences. Consequently, the authorities are not informed and thus are unable to step these offences. It is required that the government set up the legal measures to seek out participation from the general public by report in the information to culture. Furthermore, the Constitution of the Kingdom of Thailand B.E. 2550 stating in Section 70 and Section 1 that every person shall have a duty to uphold the nation and to protect benefit of the nation. It should be thus assumed that “If any person Knows or has solid grounds for believing that there is the commitment of drug offences but not informing the authorities, that person shall be assumed to be an accessory in habit-forming drug offences.” The objective of the assumption is a legal assumption to report the commitment of drug offences. This will certainly lead to effective prevention and suppression of the commitment of narcotics offences in the later stage.Downloads
Issue
Section
Articles