ความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ของนักการเมืองท้องถิ่นมีผลต่อการสื่อสารทางการเมืองของประชาชน: กรณีศึกษาการปกครองท้องถิ่น จ.ชลบุรี

Authors

  • สะถิระ เผือกประพันธุ์

Keywords:

นักการเมือง, ระบบอุปถัมภ์, การสื่อสารทางการเมือง, การปกครองท้องถิ่น, ชลบุรี

Abstract

          การศึกษาเรื่องนี้ เป็นการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์และรูปแบบระบบอุปถัมภ์ของผู้นำชุมชนกับประชาชน และเพื่อศึกษารูปแบบและโครงสร้างของเครือข่ายสังคมระบบอุปถัมภ์ของผู้นำชุมชนกับประชาชน รวมทั้งเพื่อศึกษาความเกี่ยวข้องของความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ของผู้นำชุมชนที่มีอิทธิพล ต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ประชากรกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้นำชุมชนจำนวน 82 คน และประชาชนในชุมชนตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี จำนวน 500 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ผลการศึกษาในครั้งนี้ พบว่า ความสัมพันธ์และรูปแบบระบบอุปถัมภ์ของผู้นำชุมชนและประชาชนของตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เป็นไปในลักษณะเป็นการช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยเอื้อเฟื้อต่อกัน ซึ่งลักษณะดังกล่าวเป็นความสัมพันธ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อวิถีชีวิตของสังคมไทย เพราะความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์เน้นความช่วยเหลือเกื้อกูลและการตอบแทน ที่เราเรียกว่า “บุญคุณ” ความสัมพันธ์ในลักษณะเช่นนี้ นับว่ามีผลดีต่อคนไทยทั้งในด้านสังคมและเศรษฐกิจการเมือง ในส่วนของรูปแบบเครือข่ายโครงสร้างทางสังคมพบว่า พัฒนามาจากระบบเครือญาติในชุมชนเป็นส่วนใหญ่ ด้วยความสัมพันธ์ในระบบดังกล่าว จึงทำให้ระบบอุปถัมภ์ที่เกิดขึ้นในชุมชนยิ่งเกาะเกี่ยวแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นนั่นเอง รวมทั้งความเกี่ยวข้องของความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ของผู้นำชุมชนกับประชาชนที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองนั้น พบว่า หากผู้นำชุมชนมีคุณลักษณะหรือคุณสมบัติและความรู้ ความสามารถที่ดี จะเป็นคุณสมบัติที่สนับสนุนให้กับประชาชนในชุมชนมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยผ่านสายสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ของกับผู้นำชุมชนกับประชาชน ส่วนรูปแบบการสื่อสาร สามารถสรุปได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ การสื่อสารระหว่างบุคคล การสื่อสารมวลชน และการประชุมอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ประเด็นสุดท้าย คือ การนำรูปแบบการสื่อสารไปใช้ในการสร้างภาพลักษณ์ของผู้นำท้องถิ่น ประโยชน์ที่ได้จากการวิจัยเรื่องนี้ จะเป็นประโยชน์ในการนำไปพัฒนารูปแบบการสื่อสารของผู้นำท้องถิ่นในจังหวัดนครปฐมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในชุมชนนั้น ๆ          The purposes of this quantitative research and qualitative research were to study the patronage relationship between community leaders and people, to study the model and structure of social network, and to study the patronage relationship between community leaders and people that affects political participation in Seansuk Sub-District, Muang District, Chonburi Province. The population in this study was 82 community leaders and 500 people from 14 communities in Seansuk Sub-District, Muang District, Chonburi Province The instruments used in this research were questionnaires. The statistic used to analyze the data was percentage. The results of this study were found that the patronage relationship between community leaders and people that affects political was to help and rely on each other with generosity. That such a relationship is crucial to the life of Thai society because the patronage relationship focuses on fostering and rewarding relationships which we call “gratefulness”. This relationship is a positive effect on the social and political economy in Thailand. The model and structure of social network is the development of kinship in the community mostly. Such associated system is enabling the patronage system to the community in the tightly interlaced. The study of the patronage relationship between community leaders and people that affects political participation showed that community leaders who have good qualifications, knowledge, and great ability is a feature that encourages the people in the community to have political participation through the patronage relationships with community leaders and their residents. The forms of the communication can be concluded in 3 forms: interpersonal communication, mass media communication, and official and unofficial conference. The last mentioned was to use the forms of communication to build the image of local leaders. The benefit of this research was to develop the forms of communication of local leaders in Chonburi Province to be more efficient and compliant with the lifestyle of the people in the community.

Downloads