การเปลี่ยนแปลงของค่าเบต้าของหุ้นสามัญ ในอุตสาหกรรมการเงิน

Abstract

          การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบค่าเบต้าระหว่าง หมวดธุรกิจในอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน และศึกษาการเปลี่ยนแปลงของค่าเบต้าของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน ซึ่งประกอบ ด้วยหมวดธุรกิจธนาคาร หมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ และหมวดธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต โดยช่วงวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558 จนถึงวันที่ 12 เมษายน 2560 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง คือ บริษัท จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในหมวดอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน โดยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวน one-factor ANOVA           ผลการศึกษาพบว่า ค่าเบต้าของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มอุตสาหกรรม ธุรกิจการเงินในภาพรวม เท่ากับ 0.7883 โดยหมวดธุรกิจธนาคาร มีค่าเบต้า สูงสุดที่ 0.9715 รองลงมา ได้แก่ หมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ และหมวด ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต เท่ากับ 0.8682 และ 0.4674 ตามลำดับ ค่าเบต้าของบริษัทจดทะเบียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ตามประเภทของหมวดธุรกิจที่บริษัทจดทะเบียนประกอบธุรกิจ แต่ค่าเบต้าของบริษัทจดทะเบียนไม่ได้แตกต่างกันตามช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ            The purpose of this research was to comparatively study beta across sectors in the financial service industry as well as to examine change of beta for listed companies in the financial service industry which consists of banking sector, finance & securities sector, and insurance sector. The study period was from January 1, 2015 - April 12, 2017. Population and samples in this research included all listed companies in financial service industry. The quantitative data were analyzed using mean, standard deviation, and one-factor ANOVA.            The findings were as follows: the overall beta for financial industry was 0.7883. Banking Sector had the highest beta at 0.9715, followed by Finance & Securities Sector and Insurance Sector at 0.8682, and 0.4674, respectively. Beta of listed companies, when compared across sectors, was different with statistical significance. Whereas, Beta of listed companies, when compared across times, was not different with statistical significance.