สื่อวีดีทัศน์การแสดงละครไทย โดยใช้ภาษาอังกฤษ เรื่องพระอภัยมณี ตอน หึงหน้าป้อม
THAI DANCE THEATRE VIDEO FOR ENGLISH LEARMING: ASCENE FROM PHRA APHAI MANI OF “JEALOUSY AT THE FORTRESS” EPISODE
Keywords:
วีดีทัศน์การแสดงละครไทย, โดยใช้ภาษาอังกฤษ, เรื่องพระอภัยมณี, Thai Dance Theatre Video, for English Learning, Phra Aphai ManiAbstract
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของสื่อวีดีทัศน์การแสดงละครไทย โดยใช้ภาษาอังกฤษ เรื่อง พระอภัยมณี ตอน หึงหน้าป้อม สำหรับนักศึกษาปริญญาตรีปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักศึกษาปริญญาตรีปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยสื่อวีดีทัศน์การแสดงละครไทย โดยใช้ภาษาอังกฤษ เรื่องพระอภัยมณี ตอน หึงหน้าป้อม 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการศึกษาโดยใช้สื่อวีดีทัศน์การแสดงละครไทย โดยใช้ภาษาอังกฤษ เรื่องพระอภัยมณี ตอน หึงหน้าป้อม กลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษาระดับปริญญาตรีปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 24 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง จากนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษสำหรับการสอนและการแสดงนาฏศิลป์ (301-20012) ระยะเวลาที่ใช้ ระหว่างเดือนธันวาคม–เดือนกุมภาพันธ์ ปีการศึกษา 2563 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) สื่อวีดีทัศน์การแสดงละครไทย โดยใช้ภาษาอังกฤษ เรื่องพระอภัยมณี ตอน หึงหน้าป้อม 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการศึกษา โดยใช้สื่อวีดีทัศน์การแสดงละครไทย โดยใช้ภาษาอังกฤษ เรื่องพระอภัยมณี ตอน หึงหน้าป้อม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวิจัยพบว่า 1) ประสิทธิภาพของสื่อวีดีทัศน์การแสดงละครไทย โดยใช้ภาษาอังกฤษ เรื่องพระอภัยมณี ตอน หึงหน้าป้อม มีค่าเท่ากับ 84.20/98.25 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้ง คือ 80/80 2) คะแนนผลสัมฤทธิ์หลังเรียนของนักศึกษาสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 3) ความพึงพอใจของ สื่อวีดีทัศน์การแสดงละครไทย โดยใช้ภาษาอังกฤษ เรื่องพระอภัยมณี ตอน หึงหน้าป้อม ทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านครูผู้สอน ด้านเนื้อหาด้านกิจกรรมการเรียนการสอนและด้านการวัดและประเมินผล โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.59) This research had objectives 1) To find out the efficiency of Thai Drama Performance Video Media by English Played of Phra Aphai Mani in Episode of Jealous in Front of Fortress for the 2nd year undergraduate students to get efficiency as the standard criterion of 80/80. 2) To compare studying achievement of the 2nd year undergraduate students as before and after studying through Thai Drama Performance Video Media By English Played of Phra Aphai Mani In Episode of Jealous in Front of Fortress. 3) To study the satisfaction to the studying through Thai Drama Performance Video Media by English Played of Phra Aphai Mani in Episode of Jealous in Front of Fortress. Sampling group be the 2nd year undergraduate students in the 2nd semester of the educational year 2563 B.E. in total of 24 students. Students choosing with specific random from all registered students in the subject of English for teaching and Thai Classical Dance (301-20012). Time to study between December–February of the educational year 2563 B.E. Tools in research be 1) Thai Drama Performance Video Media by English Played of Phra Aphai Mani in Episode of Jealous in Front of Fortress. 2) Achievement test of before and after studying and 3) Satisfaction questionnaires of students to the studying usage of Thai Drama Performance Video Media by English Played of Phra Aphai Mani in Episode of Jealous in Front of Fortress. Statistics usage in data analysis be percentage, mean, standard deviation and T-test. The finding found that: - 1. Efficiency of Thai Drama Performance Video Media by English Played of Phra Aphai Mani in Episode of Jealous in Front of Fortress be 84.20/98.25 that be higher than standard criterion of 80/80. 2. The after studying achievement scores of students were higher than before studying with significant at level of .05 3. Satisfaction scores of Thai Drama Performance Video Media by English Played of Phra Aphai Mani in Episode of Jealous in Front of Fortress for all 4 parts as part of teachers, contents, learning activities and evaluation in overall be the highest level (average = 4.59).References
กระทรวงวัฒนธรรม, (2562). หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานาฏศิลป์ศึกษา (4 ปี) (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.2562). กรุงเทพฯ : สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์.
นิชิโมโต, โยอิชิ (2538). การผลิตสื่อโทรทัศน์และวิดีทัศน์. แปลโดยวิภา อุดมฉันท์. พิมพ์ครั้งที่ 1 กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
บุญชม ศรีสะอาด. (2543). การวิจัยเบื้องต้น. กรุงเทพมหานคร : สุรีวิยาสาส์น.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การพัฒนาการสอน. กรุงเทพมหานคร : สุรีวิยาสาส์น.
พวงรัตน์ ทวีรัตน์. (2531). การสร้างและพัฒนาแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์. กรุงเทพฯ : สำนักทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
พิตร ทองชั้น. (2524). หลักการวัดผล. กรุงเทพฯ : พีระพัธนา.
ไพศาล หวังพานิช. (2526). การวัดผลการศึกษา. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์.
อัจฉรา สัปปพันธ์. (2538, เมษายน-มิถุนายน). วีดิทัศน์กับกิจกรรมการสอนภาษาอังกฤษสารพัฒนาหลักสูตร.
อนันต์ ศรีโสภา. (2554). การวัดผลการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช.
Koksal, D. (2004). Technology in Language Teaching and Learning. Retrieved November15, 2003, from www. Tojet.net/articles/339 htm-101k.
Lemlech, J.K. (1998). Curriculum and Instructional Methods for the Elementary and Middle School. New Jersey: Prentice-Hall.
Malay, Alan; & Duff. Alan (1994). Drama Techniques in Language learning 2 edGreal Britain: Cambridge.
Mcgovern, J. (1983). “Type of Video Software: A User’s Experience,” in Video Applications in English Language Teaching. J Mcgovern. (ED.). pp.57-67. Oxford: Pergamon.
Stempleski, S.; & Tomalin, B. (1990). Video in Action: Recipes for Using Video in Language Teaching. London: Prentice Hall International.
Ur, P. (1984). Teaching Listening Comprehension. Cambridge: Cambridge University Press.