ความสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อมการทำงาน ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของหัวหน้าหอผู้ป่วยกับผลผลิตของหอผู้ป่วย โรงพยาบาลชุมชนเขตภาคใต้

Relationships between Work Environment, Strategic Leadership, and Productivity of Patient Units in Primary Hospitals, Southern Area

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ ระหว่างสภาพแวดล้อมการทํางานรายด้าน ภาวะผู้นําเชิงกลยุทธ์ของหัวหน้าหอผู้ป่วยกับผลผลิต ของหอผู้ป่วยโรงพยาบาลชุมชน เขตภาคใต้ กลุ่มตัวอย่าง คือ พยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วย โรงพยาบาลชุมชนเขตภาคใต้ จํานวน 333 คน ใช้วิธีสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามสภาพแวดล้อมการทํางาน ด้านการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวของทีมการพยาบาลด้านการสนับสนุนจากผู้นิเทศการพยาบาล ด้านการมีอิสระในการทํางาน ด้านความกดดันจากการทํางาน ภาวะผู้นําเชิงกลยุทธ์ของหัวหน้าหอผู้ป่วย และผลผลิตของหอผู้ป่วยซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ และการวิเคราะห์ค่าความเที่ยงโดย ทดสอบค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค ได้ค่าความเที่ยงของแบบสอบถามเท่ากับ .80, .90, .83, .70, .96 และ .94 ตามลําดับ  วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน  ผลการวิจัยพบว่า  ผลผลิตของหอผู้ป่วยโรงพยาบาลชุมชนเขตภาคใต้อยู่ในระดับสูง (ค่าเฉลี่ย = 3.93, SD = 0.42) การ รวมกันเป็นหนึ่งเดียวของทีมการพยาบาล มีความสัมพันธ์ทางบวกกับผลผลิตของหอผู้ป่วย (r = .40, p <.001) การสนับสนุนจากผู้นิเทศการพยาบาล มีความสัมพันธ์ทางบวกกับผลผลิตของหอผู้ป่วย (r .23, p <.001) การมีอิสระในการทํางานมีความสัมพันธ์ทางบวกกับผลผลิตของหอผู้ป่วย (r = .55, p <.001) ความกดดันจากการทํางานมีความสัมพันธ์ทางลบกับผลผลิตของหอผู้ป่วย (r = - .25, p<.001) ภาวะผู้นําเชิงกลยุทธ์มีความสัมพันธ์ทางบวกกับผลผลิตของหอผู้ป่วย (r = .48, p<.001) ข้อเสนอแนะจากผลการวิจัยครั้งนี้คือ ควรหาแนวทางการส่งเสริมผลผลิตของหอผู้ป่วย โดยการสร้างบรรยากาศที่เกื้อหนุนต่อการปฏิบัติงาน และให้ความสําคัญในการเตรียมความพร้อมและพัฒนาภาวะผู้นําให้กับผู้ที่เป็นหัวหน้าหอผู้ป่วย  The purposes of this research were to study the relationships between work environment, strategic leadership, and productivity of patient units, in primary hospitals, southern area. The sample consisted of 333 staff nurses worked in patient units, selected by multistage random sampling technique. Research instruments were peer cohesion, supervisor support, autonomy in working, work pressure, strategic leadership of head nurses, and productivity of patient units questionnaires which were developed by the researcher, validated by the panel of expert, and Cronbach's alpha coefficients of reliability were .80, .90, .83, .70, .96 and .94 respectively. Statistical technique used for data analysis were frequency, percentage, mean, standard deviation, Pearson's product moment correlation. The results of the study revealed that mean score of productivity of patient units, primary hospitals southern area was at high level (average = 3.93, SD = 0.42). Peer cohesion and productivity of patient units were significant correlated at moderately (r = .40, p<.001). Supervisor support and productivity of patient units were significant correlated at low level (r = .23, p<.001). Autonomy and productivity of patient units were significant correlated at moderately (r = .55, p<.001). Work pressure and productivity of patient units were negative significant correlated at low level (r = - .25, p< .001). Strategic leadership of head nurses and productivity of patient units were significantly correlated moderately (r= .48, p<.001).