พฤติกรรมสุขภาพและปัจจัยที่สัมพันธ์กับภาวะโภชนาการเกินของนักเรียนโรงเรียน สาธิต "พิบูลบำเพ็ญ" มหาวิทยาลัยบูรพา

Health behaviors and factors related to overweight in students of the demostration school at Burapha University

Authors

  • ขันทอง สุขผ่อง

Keywords:

โรงเรียนสาธิตพิบูลบำเพ็ญ มหาวิทยาลัยบูรพา, พฤติกรรมสุขภาพ, นักเรียนมัธยมศึกษา, โภชนาการ, โรคอ้วน

Abstract

การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา พฤติกรรมการบริโภคอาหาร พฤติกรรมการออกกำลังกาย และศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับภาวะ โภชนาการเกินได้แก่ เพศ ประวัติครอบครัว รายได้ของครอบครัว พฤติกรรมการบริโภคอาหาร และพฤติกรรมการออกกําลังกายของนักเรียน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนที่กําลังศึกษาอยู่ในระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนสาธิต “พิบูลบําเพ็ญ” มหาวิทยาลัยบูรพา จํานวน 251 คน ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามพฤติกรรมการบริโภคอาหาร มีค่าความเชื่อมั่น .80 และแบบสอบถามปลายเปิด ด้านพฤติกรรมการออกกําลังกาย วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ไคว์-แสควร์ และอัตราเสี่ยง (Odds ratio)  ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนมีภาวะโภชนาการ อยู่ในเกณฑ์ปกติ ร้อยละ 65.7 ภาวะโกชนาการเกิน ร้อยละ 27.5 และต่ำกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 6.8 พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เหมาะสมและปฏิบัติ 5-7 วันต่อ สัปดาห์มากที่สุด คือ การรับประทานอาหารมื้อเช้า รองลงมาคือ การรับประทานอาหารมื้อเช้า กลางวัน เย็น ครบ 3 มื้อต่อวัน คิดเป็นร้อยละ (68.1 และ 67.3 ตามลําดับ ส่วนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมคือ การรับประทานอาหารหรือขนมจุบจิบ รองลงมาคือ การรับประทานอาหารมื้อเย็นปริมาณมากกว่านี้ออื่นๆ คิดเป็นร้อยละ 24.7 และ 24.3 ตามลําดับ การบริโภคชนิดของอาหารที่เหมาะสมและปฏิบัติ 5-7 วันต่อสัปดาห์มากที่สุด คือ การรับประทานเนื้อสัตว์ เช่น ปลา หมู ไก่ รองลงมาคือ การดื่มนมรสจืดหรือนมพร่องมันเนย คิดเป็นร้อยละ 70.5 และ 38.6 ตามลําดับ ส่วนการบริโภคชนิดอาหารที่ไม่เหมาะสมคือ การดื่มนมเปรี้ยว นมรสหวานหรือนมช็อกโกแลต รองลงมาคือ การรับประทานขนมถุงขบเคี้ยว กรุบกรอบ เช่น มันฝรั่ง ข้าวเกรียบ คิดเป็นร้อยละ 33.9 และ 10.4. ตามลําดับ  นักเรียนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการออกกําลังกายยังไม่เพียงพอ คิดเป็นร้อยละ 50.6 และออกกําลัง กายอย่างเพียงพอ คิดเป็นร้อยละ 42.2 กิจกรรมที่ปฏิบัติมากที่สุด คือ ปัดฝุ่น-กวาดบ้าน และเดินเร็ว ปัจจัยด้านเพศ ประวัติกรอบครัว และพฤติกรรมการบริโภคอาหารครบ 5 หมู่ การรับประทานอาหารหรือขนมจุบจิบ การชอบคุยหยอกล้อกันขณะรับประทานอาหาร การรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ  เช่น แหนม ปลาร้า มีความสัมพันธ์กับภาวะโภชนารการเกินของนักเรียน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05 โดยเพศชายมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะโภชนาการเกิน 1.82 เท่ากับเพศหญิง และนักเรียนมีประวัติครอบครัว (บิดาและ/หรือมารดา) มีภาวะอ้วนลงบพุงมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะโภชนาการเกิน 3.46 เท่ากับของนักเรียนที่ประวัติครอบครัวไม่มีภาวะอ้วนลงพุง ส่วนรายได้ของครอบครัว และพฤติกรรมการออกกำลังกาย ไม่มีความสัมพันธ์กับภาวะโภชนาการเกินของนักเรียนที่ระดับสำคัญทางสถิติ .05  The purpose of this study was to investigate food consumption behavior, exercise behavior and relationship between factors related to overweight, such as gender, family history of obesity, family income, food consumption behavior and exercise behavior. The sample for the study was 251 students in secondary school grades 7-9 attending the demonstration school at Burapha University, selected by stratified random sampling. The instruments were questionnaire regarding food consumption behaviors having reliability  coefficient .80 and open-ended interviewing questions related 10 exercise behaviors. Data were analyzed, using frequencies, percentages, chi-square test and odds ratio.  The results of the study revealed that 65.7% of the samples were at normal range of nutritional status, 27.5% were overweight and 6.8% were at lower range of nutritional status.  The most common food consumption behaviors for 5-7 days per week were that 68.1% had  breakfast and 67.3% had 3 meals a day. Unhealthy practices included 24.7% consuming food without hungry and 24.3% had over-eating at dinner. For types of food, it was found that 70.5% of the samples consumed meat, 38.6% consumed fresh milk or low fat milk, but 33.9% consumed sweet milk and 10.4% consumed snacks.  The results regarding exercise behaviors demonstrated that 50.6% of the samples engaged in less than normal physical activities, while 42.2% engaged in proper physical activities. Most common exercise behaviors were cleaning the house and fast walk.  There were statistically significant relationships between gender, family history of of obesity, five-food group consumption, snack consumption, consumption while playing, consumption raw food and being overweight. The estimated risk ratio of male to female was 1.82 and the risk ratio of family history of appleshape obesity was 3.46, but no significant relationship between family income, exercise behavior and being overweight.

Downloads

Published

2022-01-18