ความบกพร่องทางเพศและการจัดการในสตรีที่เป็นมะเร็งทางนรีเวชหลังได้รับการ รักษา
Sexual dysfunction and management in women with gynecological cancer after receiving treatment
Keywords:
ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ, พฤติกรรมทางเพศ, ความบกพร่องทางเพศ , สตรีที่เป็นมะเร็ง, นรีเวชหลังได้รับการรักษาAbstract
การวิจัยเชิงพรรณนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาความบกพร่องทางเพศและการจัดการในสตรี ที่เป็นมะเร็งทางนรีเวชหลังได้รับการรักษา กลุ่มตัวอย่างเป็นสตรีที่เป็นมะเร็งทางนรีเวชหลังได้รับการรักษาที่มารับบริการที่ห้องตรวจผู้ป่วยนอก แผนกนรีเวชกรรมโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จํานวน 250 คน จากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือ ที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบสอบถามความบกพร่องทางเพศ ในสตรีที่เป็นมะเร็งทางนรีเวชหลังได้รับการรักษา และแบบสอบถามการจัดการในสตรีที่เป็นมะเร็งทางนรีเวชหลังได้รับการรักษา ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นจากการทบทวนวรรณกรรม ตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ค่าดัชนีความตรงตาม เนื้อหาเท่ากับ .90 และ 1.00 ตามลําดับ ค่าความเชื่อมั่นสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาคของ แบบสอบถามความบกพร่องทางเพศในสตรีที่เป็นมะเร็งทางนรีเวชหลัง ได้รับการรักษา เท่ากับ .91 และค่าความเชื่อมั่นสัมประสิทธิ์แคปปาของแบบสอบถาม การจัดการในสตรีที่เป็นมะเร็งทางนรีเวชหลังได้รับ การรักษาเท่ากับ .92 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า 1. กลุ่มตัวอย่างมีความบกพร่องทางเพศ โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านความต้องการทางเพศ ด้านการตื่นตัวทางเพศ และด้านการบรรลุจุดสุดยอดทางเพศ ความบกพร่องทางเพศอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนด้านความเจ็บปวดขณะร่วมเพศอยู่ในระดับน้อย 2. กลุ่มตัวอย่างส่วนมาก (ร้อยละ 68.8) ที่มีความบกพร่องทางเพศโดยรวมอยู่ในระดับมากไม่ได้ จัดการความบกพร่องทางเพศใดๆ เพราะไม่รู้วิธีการแก้ไขความบกพร่องทางเพศ สําหรับกลุ่มตัวอย่าง ส่วนมาก (ร้อยละ 45.0 และ 85.8) ที่มีความบกพร่องทางเพศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลางและ น้อยไม่ได้จัดการความบกพร่องทางเพศใดๆ เพราะคิดว่าไม่มีความบกพร่องทางเพศ และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ไม่ต้องการความช่วยเหลือเพื่อแก้ไขความบกพร่องทางเพศ เพราะคิดว่าไม่เป็นปัญหา และลองมาหลายวิธีไม่ได้ผล ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่ต้องการ ความช่วยเหลือระบุว่าต้องการความช่วยเหลือจาก แพทย์ สามี พยาบาล และเพื่อน ตามลําดับ ผลการวิจัยครั้งนี้สามารถนําไปใช้เป็นความรู้ พื้นฐานสำหรับพยาบาลในการวางแผนการพยาบาล เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจถึงความบกพร่องทางเพศ ในสตรีที่เป็นมะเร็งทางนรีเวชหลังได้รับการรักษาที่ สามารถเกิดขึ้นได้และสนับสนุนการจัดการความบกพร่องทางเพศ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตในด้านสุขภาพทางเพศของสตรี และคู่สมรสต่อไป Sexual dysfunction is one of the problems in women with gynecological cancer after receiving treatment. Appropriate management of sexual dysfunction will maintaining relationships and quality of life in women. This descriptive study aimed to describe sexual dysfunction and management in women with gynecological cancer after receiving treatment. A sample of 250 patients with gynecological cancer was treated and following treatment at The Maharaj Nakorn Chiang Mai Hospital. The research instruments consisted of a Demographic Data Profile, the Sexual Dysfunction Questionnaire, and the Management of Sexual Dysfunction Questionnaire for women with gynecological cancer after receiving treatment, which were developed by the researcher based on related literature. Content validity of all questionnaires was confirmed by a panel of experts. The content validity index (CVI) of the instruments was .90 and 1.00 respectively, the values of Cronbach's alpha coefficient and Kappa's coefficient determining the reliability were .91 and .92 respectively. Data were analyzed using descriptive statistics. The results are as follows : 1. The subjects had a moderate level of overall sexual dysfunction. Considering each aspect of such sexual dysfunction, it was found that the subjects had sexual dysfunction relating to sexual desire, sexual arousal, and sexual orgasm, which were at moderate level, whereas pain during sexual intercourse was at a mild level. 2. Most of the subjects (68.8 %) who had a high level of overall sexual dysfunction used no method for management due to lack of information. While most of the subjects (45.0 % and 85.8 %) who had a moderate and a mild level of overall sexual dysfunction used no method for management because of thinking they had no sexual dysfunction. 3. Most of the subjects needed no assistance as they thought that there was not a problem and they had tried many methods. However, the subjects who needed assistance expressed need from doctors, spouse, nurses, and friends, respectively. The findings provide nurse knowledge regarding sexual dysfunction after receiving treatment to be used in planning nursing care to prevent sexual dysfunction in women with gynecological cancer after receiving treatment and encourage quality of life relate to sexual health in women and their spouse.Downloads
Published
2022-02-17
Issue
Section
Articles