ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความร่วมมือในการรักษาของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ชนิดไม่ทราบสาเหตุ
Factors related to adherence to treatment among essential hypertensive patients
Keywords:
ความดันเลือดสูง, การรักษา, ผู้ป่วย, ความร่วมมือในการรักษาAbstract
การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาเพื่อ ศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความร่วมมือในการรักษาของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ ในเขตภาคตะวันออกของประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุที่มารับการรักษา ณ แผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลพระปกเกล้า โรงพยาบาลระยอง โรงพยาบาลฉะเชิงเทรา และโรงพยาบาลตราด ทําการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย และตามเกณฑ์การคัดเลือกได้ กลุ่มตัวอย่าง จํานวน 248 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยแบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบสอบถามความร่วมมือในการรักษาของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ชนิดไม่ทราบสาเหตุ แบบสอบถามความรู้เกี่ยวกับ ภาวะความดันโลหิตสูง และแบบสอบถามการบริการของบุคลากรทางสุขภาพ เก็บข้อมูลตั้งแต่เดือน พฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2549 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ผลการศึกษาพบว่า 1. ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ ส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือในการรับประทานยาระดับมาก เฉลี่ยร้อยละ 93.92 (ค่าเฉลี่ย=93.92, SD=11.12) และให้ความร่วมมือใน การปรับเปลี่ยนแบบแผนการดําเนินชีวิตโดยรวมระดับมาก เฉลี่ยร้อยละ 82,86 (ค่าเฉลี่ย=174.00, SD=25.70) 2. อายุและความรู้เกี่ยวกับภาวะความดันโลหิตสูง มีความสัมพันธ์ทางบวกระดับน้อยกับความร่วมมือในการรักษา โดยการปรับเปลี่ยนแบบแผนการดําเนินชีวิต อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (rs = .258, p=.001 และ rs = .203, p=.001 ตามลําดับ) 3. ความรู้เกี่ยวกับภาวะความดันโลหิตสูง มีความสัมพันธ์ทางบวกระดับน้อยกับความร่วมมือในการรักษาโดยการใช้ยาอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (rs =.185, p=.001) ส่วนระยะเวลาที่ได้รับบริการ และจํานวนเม็ดยามีความสัมพันธ์ทางลบกับความ ร่วมมือในการรักษาโดยการใช้ยาอย่างมีนัยสําคัญทาง สถิติที่ระดับ .05 (rs = -.172, p = .007 และ rs = -.127, p = .046 ตามลําดับ) การวิจัยครั้งนี้สามารถนําไปเป็นข้อมูลพื้นฐาน สําหรับการปรับปรุงระบบบริการส่งเสริมให้ผู้ป่วย ความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุร่วมมือในการ รักษามากขึ้นซึ่งจะทําให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้สามารถควบคุม ความดันโลหิตได้ดียิ่งขึ้น The purpose of this descriptive correlational research was to examine correlation between relation factors and adherence to treatment among essential hypertensive patients in eastern region of Thailand. Two hundreds forty eight essential hypertensive patients were recruited randomly from out patient clinics of Prapokklao Hospital, Rayong Hospital, Chachengthao Hospital and Trat Hospital. Self-reported questionnaires including the demographic data questionnaire, the knowledge of hypertension questionnaire, the adherence to treatment questionnaire and the service of health care provider questionnaire were used to collect data. Data was analyzed by using descriptive statistics. The results revealed that 1. Most of hypertensive patients had good medication adherence with a mean percentage of 93.92 (average = 93.92, SD = 11.12), and good adherence to lifestyle modification with a mean percentage of 82.86 (average = 174.00, SD = 25.70). 2. There were low positively significant relationship between age, knowledge of hypertension and adherence to lifestyle modification at the level of .05 (r8 = .258, p=.001 ; r8 = .203, p=.001) 3. There was low positively significant relationship between knowledge of hypertension and medication adherence at the level of .05. (r8 = .185, p = .001) However the duration of service and the number of pills had low negatively significant relationship with medication adherence at the level of .05 (rs = -.172, p = .007 ; rs = -.127, p = .046). This study can used as data base to improve health service for essential hypertensive patients for more adherence to treatment that can improve blood pressure control.Downloads
Published
2022-03-01
Issue
Section
Articles