ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการออกกำลังกายของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลศูนย์ เขตภาคตะวันออก

Factors related to exercise among professional nurses in the Eastern Regional Hospitals

Abstract

          การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาความสัมพันธ์ ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ประสบการณ์การออกกําลังกาย การรับรู้ประโยชน์ การรับรู้อุปสรรค การรับรู้ความสามารถตนเอง อิทธิพลระหว่างบุคคล และการอยู่เวรพิเศษฉุกเฉิน กับการออกกําลังกายของพยาบาลวิชาชีพ กลุ่มตัวอย่างคือพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลชลบุรีและ โรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี จํานวน 351 คน ที่สุ่มแบบเป็นระบบ เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วยแบบสอบถามชุดที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคล ประสบการณ์การออกกําลังกาย การรับรู้ประโยชน์ การรับรู้อุปสรรค การรับรู้ความสามารถตนเอง อิทธิพลระหว่างบุคคล และแบบสอบถามชุดที่ 2 การอยู่เวรพิเศษฉุกเฉิน และพฤติกรรมการออกกําลังกาย เก็บข้อมูล โดยแจกแบบสอบถามและนัดหมายรับแบบสอบถามคืน ด้วยตนเอง 2 ครั้ง ครั้งแรกเก็บข้อมูลชุดที่ 1 ต่อมา 4 สัปดาห์เก็บข้อมูล ชุดที่ 2 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสําเร็จรูป ทางสถิติสังคมศาสตร์ (SPSS for Windows) โดยค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์สเปียร์แมน ผลการวิจัยพบว่า อายุ ประสบการณ์การออกกําลังกาย จํานวนการอยู่เวรเช้า การรับรู้ประโยชน์ การรับรู้ความสามารถตนเอง มีความ  สัมพันธ์ทางบวกกับการออกกําลังกาย มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์สเปียร์แมนเท่ากับ .116 .294 .133 .171 และ .354 ตามลําดับ จํานวนการอยู่เวรบ่าย จํานวนการอยู่เวรดึก การรับรู้อุปสรรค มีความสัมพันธ์ทางลบกับ การออกกําลังกาย ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ สเปียร์แมนเท่ากับ -.132 -.167 และ -.196 ตามลําดับ อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05  The objective of this study was to describe the relationships between personal factors, perceived benefits, perceived barriers, perceived self-efficacy, perceived interpersonal influence, work time, emergency on-call and exercise behavior. Systemic sampling technique was used to select 351 subjects from Chonburi Hospital and Prapokkao Hospital The instruments for this study included (1) Personal factors, (2) Perceived Benefits Scale, (3) Perceived Barriers Scale, (4) Perceived Self-Efficacy Scale, (5) Perceived Interpersonal Influence Scale and (6) Physical Activity Questionnaire. Spearman, s rank correlation was used to analyze the data.  The results revealed that age, exercise experience, work time during 8 am to 4 pm, perceived benefits, perceived self-efficacy were positive related to exercise behavior with the Spearman's rank correlation coefficients of .116, .294, .133 and .354 respectively. Perceived barriers, work time during 4 pm to 12 pm and during 12 am to 8 am, were negative related to exercise behavior with the Spearman's rank correlation coefficients of  -.132, -.167 and –.196 (p<.05) respectively.