การนวดในทารก

Massage therapy for infants

Abstract

          ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาการนวด ถือว่าเป็นการรักษาอย่างหนึ่งซึ่งนํามาใช้กันอย่างหลากหลายในการ รักษาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ เช่น ผู้ที่มีกล้ามเนื้อเกร็ง มีความเครียด ปวดท้อง เจ็บครรภ์คลอด และอาการปวดประจําเดือน เป็นต้น นอกจากนี้การนวดยังถูกนํา มาใช้นวดเต้านมเพื่อ กระตุ้นการหลั่งน้ำนมในมารดาที่ให้นมบุตร นวดเพื่อช่วยส่งเสริมการหายของแผล ภายหลังได้รับการผ่าตัด นวดเพื่อช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และข้อต่อต่าง ๆ ในผู้ที่ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดเอว หรือปวดตามข้อ และยังใช้การนวดในผู้สูงอายุด้วย กล่าวโดยทั่วไป การนวดให้ประโยชน์โดยตรงในการส่งเสริมการ ไหลเวียนของระบบโลหิต ช่วยให้ระบบขับถ่ายทํางานได้ดีขึ้น ลดการบวมและการดึงรั้งของแผลเป็น และช่วยทําให้ระบบประสาทผ่อนคลายมากขึ้น (Field, 1995)  ได้มีการศึกษาเกี่ยวกับการนวดเพื่อการบําบัด ในที่ต่าง ๆ ของโลก ที่มีความแตกต่างกันในเรื่องของ ความเชื่อ วัฒนธรรม ประเพณี (Older, 1990) พบว่ามารดาชาวเมารีในประเทศนิวซีแลนด์ จะนวดและดึงจมูกให้ลูกเพื่อให้จมูกโด่ง และนวดขา เพื่อให้ขาแข็งแรงและเพิ่มความสูง ชาวคิวบาใช้น้ำมันและกระเทียมในการนวดบริเวณท้องเพื่อบรรเทาอาการจุก แน่นท้องและอาการไข้หลังจากการรับประทานอาหาร อิ่มมากเกินไป ชาวหมู่เกาะซามัวในมหาสมุทรแปซิฟิก ใช้การนวดเพื่อบรรเทาอาการปวดศีรษะไมเกรน และอาการปวดมวนท้อง เนื่องจากท้องเสีย โดยใช้ส่วนผสมของกะทิ ดอกและรากของพืชสมุนไพรในการ นวดเพื่อการรักษานี้  การนวดนับว่าเป็นการบําบัดรักษาสาขาหนึ่ง ของสัมผัสบําบัด (Touch therapy) ซึ่งมีความสําคัญ เป็นที่น่าสนใจและเป็นที่นิยมกันมาก ทั้งนี้การนวดนอกจาก ใช้บำบัดหรือบรรเทาอาการเจ็บปวดในผู้ป่วยหรือผู้ที่มีความไม่สุขสบายแล้ว ผู้ที่ปกติดีไม่มีความเจ็บป่วยใด ๆ ก็นิยมใช้การนวดเพื่อช่วยให้ร่างกาย รู้สึกสบายและผ่อนคลาย ซึ่งจะส่งผลให้จิตใจสบาย มีสุขภาพจิตที่ดีด้วย