ผู้หญิงไต้หวันกับปัญหาประชากร

China with demographic problem

Abstract

          นับตั้งแต่สหประชาชาติได้มีแนวทางในการแก้ ปัญหาเพื่อลดการเพิ่มจํานวนอย่างรวดเร็วของประชากรในประเทศต่าง ๆ ด้วยการขอให้ช่วยเพิ่มสิทธิสตรีให้กับผู้หญิงทั่วโลก เพื่อให้ผู้หญิงได้มีโอกาสได้รับการศึกษาสูงขึ้น มีตําแหน่งหน้าที่การงานทัดเทียมผู้ชาย รวมทั้งให้สามารถประกอบอาชีพที่เคยสงวนไว้เฉพาะ ผู้ชายได้อีกด้วย เช่น การเป็นนักบิน การเป็นวิศวกรเป็นต้น สิ่งเหล่านี้ก็มุ่งหวังที่จะให้ผู้หญิงมีเวลาว่างลดลง จะเป็นการช่วยยืดอายุการสมรสอีกด้วย ยิ่งผู้หญิงสมรสช้าเพียงใด ก็จะทําให้มีบุตรช้าตามไปด้วย และจํานวน  บุตรที่มีก็จะไม่มากเหมือนในอดีต สิทธิสตรีดังกล่าวนี้ สามารถทําได้สําเร็จในประเทศพัฒนาแล้ว โดยผู้หญิงมี  โอกาสต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย โดยเฉพาะในด้านการศึกษา ทําให้ผู้หญิงต้องออกไปทํางานนอกบ้านมาก  กว่าเดิม และสามารถประกอบอาชีพที่เลี้ยงตนเองได้ โดยที่ไม่ต้องเป็นภาระของผู้ชายหรือสามีในการเลี้ยงดู อีกต่อไป ถือได้ว่าเป็นการยืดอายุการสมรสได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ผู้หญิงที่มีความรู้มาก ๆ ยังเบื่อการสมรส ด้วยการอยู่เป็นโสดอย่างถาวร หรือถ้าหากไม่สามารถ จะอยู่เป็นโสดได้ก็จะถ่วงเวลาการสมรสให้นานที่สุดเท่า ที่จะทําได้ แต่เดิมในแถบเอเชียก็จะพบ ในประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์ แต่ในขณะนี้ได้พบว่าผู้หญิงของประเทศ ไต้หวันก็นิยมอยู่เป็นโสดมากเช่นกัน ไต้หวันเป็นประเทศในทวีปเอเซียที่ได้รับ การยกย่องว่าสามารถพัฒนาประเทศจนเป็นประเทศ อุตสาหกรรมใหม่ไปแล้ว ประชาชนได้รับการศึกษาสูงขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น จนเป็นแบบอย่างที่ประเทศกําลัง พัฒนาทั้งหลายจะนํามาเป็นตัวอย่างของแนวทาง การพัฒนาต่อไป แต่สิ่งที่เริ่มเกิดปัญหาของไต้หวันอย่างมากก็คือผู้หญิงเบื่อชีวิตสมรส จะขออยู่เป็นโสดอย่างถาวรมากยิ่งขึ้น หรือไม่อย่างนั้นก็จะยืดอายุการสมรสให้นานที่สุดเท่าที่จะทําได้ จากข้อมูลของสถาบัน วางแผนครอบครัวของไต้หวันพบว่า ในอดีตรัฐบาลไต้หวันมี นโยบายลดอัตราการเกิดของประชากรให้มากที่สุด เท่าที่จะทําได้และได้ประสบความสําเร็จตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 เป็นต้นมา โดยมีอัตราการเกิดของประชากรต่ำกว่า เป้าหมายแล้ว (ร้อยละ 1.5) สิ่งที่ไต้หวันได้รณรงค์เพื่อลดการเพิ่มประชากรที่สําคัญก็คือ การยืดอายุการสมรสนั่นเอง เป้าหมายจึงอยู่ที่กลุ่มวัยรุ่น รัฐบาลพยายามชักชวนให้วัยรุ่นยุคใหม่ได้มีการสมรสในช่วงอายุ ที่เหมาะสมขึ้น เช่น ผู้หญิงควรสมรสเมื่ออายุ 25 ปี ส่วนผู้ชายก็ควรสมรสเมื่ออายุ 27 ปี เพราะจะทำให้มีวุฒิภาวะและหน้าที่การงานที่สมารถดูแลครอบครัวได้ดี