คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะภายหลังการผ่าตัดทำทางเดิน ปัสสาวะใหม่
Quality of life of bladder cancer patients undergoing urinary diversion
Keywords:
คุณภาพชีวิต, กระเพาะปัสสาวะ, มะเร็ง, ผู้ป่วย, มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ, การผ่าตัดกระเพาะปัสสาวะ, ทางเดินปัสสาวะใหม่Abstract
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย มะเร็งกระเพาะปัสสาวะภายหลังการผ่าตัดทําทางเดินปัสสาวะใหม่ที่มีแตกต่างกันในด้าน อายุ อาชีพ สถานภาพสมรส ความเพียงพอของรายได้ และชนิดของทางเดินปัสสาวะใหม่ กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะที่ได้รับการรักษาโดยการผ่าตัด ทําทางเดินปัสสาวะใหม่ที่โรงพยาบาลมหาราชนคร เชียงใหม่ระหว่างเดือนมกราคม 2545 ถึง ธันวาคม 2550 จํานวน 48 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม ซึ่งประกอบด้วย ข้อมูลทั่วไปและแบบวัดคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็ง กระเพาะปัสสาวะ ทดสอบความเชื่อมั่นของเครื่องมือ ด้วยวิธีครอนบาคแอลฟาได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .86 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และทดสอบค่าทีผลการวิจัยพบว่า คะแนนเฉลี่ยคุณภาพชีวิตโดยรวมของผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะภายหลัง การผ่าตัดทำทางเดินปัสสาวะใหม่อยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย = 101.92, SD. = 20.60) โดยคะแนนเฉลี่ยคุณภาพ ชีวิตด้านร่างกาย ด้านสังคม / ครอบครัว ด้านการปฏิบัติกิจกรรมและด้านอารมณ์อยู่ในระดับสูง (ค่าเฉลี่ย = 21.27, SD. = 5.97, ค่าเฉลี่ย = 19.54, SD. = 5.04, ค่าเฉลี่ย = 19.04, SD. = 7.75 และ ค่าเฉลี่ย =17.67, SD, = 5.80 ตามลําดับ) ในขณะที่ด้านอื่นๆเพิ่มเติม มีคะแนน เฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย = 29.71, SD. = 6.50) คุณภาพชีวิตโดยรวมและรายด้านของผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะภายหลังการผ่าตัดทําทางเดิน ปัสสาวะใหม่ที่มีอาชีพ สถานภาพสมรส ชนิดของ ทางเดินปัสสาวะใหม่แตกต่างกัน มีคุณภาพชีวิตไม่แตกต่างกัน ส่วนคุณภาพชีวิตโดยราม และคุณภาพชีวิตด้านการปฏิบัติกิจกรรมของผู้ป่วยที่มีช่วงอายุต่างกันมีคุณภาพชีวิตแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทาง สถิติที่ระดับ .05, คุณภาพชีวิตโดยรวมของผู้ป่วยที่มี ความเพียงพอของรายได้แตกต่างกัน มีคุณภาพชีวิต แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และคุณภาพชีวิตด้านร่างกายและด้านปฏิบัติกิจกรรมของผู้ป่วยที่มีความเพียงพอของรายได้แตกต่างกัน มีคุณภาพชีวิตแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตด้านความผาสุก ด้านสังคม/ครอบครัว และด้านอื่นๆ เพิ่มเติม ในเรื่องเกี่ยวกับทางเพศอยู่ในระดับต่ำแสดงว่าผู้ป่วยกำลังมีปัญหาเกิดความบกพร่องทางเพศ (sexual dysfunction) ดังนั้นควรจัดให้มีคลินิกให้คำปรึกษาด้านเพศ (sex therapy) แก่ผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบและควรมีการวัดคุณภาพชีวิตผู้ป่วย ตั้งแต่ระยะก่อนผ่าตัดและหลังผ่าตัดเป็นระยะๆ เพื่อเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจนรวมทั้งพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาลเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น The purpose of this study was to determine and compare quality of life of bladder cancer patients undergoing urinary diversion among different age, job, marital status, income and type of urinary diversion. The subjects were 48 bladder cancer patients undergoing urinary diversion who were operated at Maharaj Nakorn Chiang Mai Hospital during January 2002 to December 2007. All subjects were assigned to answer a questionnaires which consisted of demographic data and The Functional Assessment of Cancer Therapy-Bladder Cancer (FACT-BL). The questionnaires were tested by Cronbach's alpha coefficient and found to be .86. The data were expressed as mean, standard deviation and analyzed by one way ANOVA and t-test. The result revealed that the mean score of overall quality of life was moderate (average = 101.92, SD. = 20.60). Mean of physical, social/ familial, functional and emotional well-being scores were high (average = 21.27, SD. = 5.97, average = 19.54, SD. = 5.04, average = 19.04, SD. = 7.75, and average = 17.67, SD. = 5.80, respectively) while additional concern was moderate (average = 29.71, SD. = 6.50). The overall quality of life of bladder cancer patients undergoing urinary diversion among different job, marital status and type of urinary diversion had not statistically differences. The overall quality of life and the functional well-being domain among those of different age group were statistically significant (p<.05). The overall quality of life between those of different income was statistically significant (p<.05). The physical well-being domain and the functional well-being domain among those of different income were statistically significant (p<.01). These findings indicate that the social/family well-being domain and the addition concern about sex life of patients were at low level which indicated sexual dysfunction in patients. Therefore, the patients should be advised in sexual dysfunction clinic and tested quality of life during pre-operative and post operative for evaluating the problem. In addition, nursing intervention should be developed to improve their quality of life.Downloads
Published
2021-12-16
Issue
Section
Articles