ผลของการให้ดูดนมมารดาอย่างมีแบบแผนต่อความปวดจากการเจาะเลือดในทารกแรกเกิด

Effects of Planned Breastfeeding on Pain in Neonates Receiving Venipuncture

Authors

  • จันทร์ฉาย ทองโปร่ง
  • นุจรี ไชยมงคล
  • ยุนี พงศ์จตุรวิทย์

Keywords:

การให้นม, ความเจ็บปวดในเด็ก, การเจาะหลอดเลือดดำ, ทารกแรกเกิด

Abstract

          การวิจัยแบบกึ่งทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการให้ดูดนมมารดาอย่างมีแบบแผนต่อความปวดจากการเจาะเลือดในทารกแรกเกิด กลุ่มตัวอย่างเป็นทารกแรกเกิดปกติ อายุ 48-72 ชั่วโมง ที่รับการเจาะเลือดเพื่อคัดครองภาวะพร่องธัยรอยด์ฮอร์โมนและเฟนนิลคีโตนูเรีย จำนวน 40 ราย คัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจงจากทารกแรกเกิดในโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ แบ่งเป็นกลุ่มทดลองที่ให้ดูดนมมารดาอย่างมีแบบแผน และกลุ่มควบคุมที่ได้รับการพยาบาลตามปกติ จำนวนกลุ่มละ 20 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบบันทึกข้อมูลทั่วไปแบบประเมินการตอบสนองความปวดของทารกแรกเกิด (NIPS) แบบบันทึกอัตราการเต้นของหัวใจ ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด และระยะเวลาการร้องไห้ค่าสัมประสิทธิ์อัลฟ่าครอนบาค (α) ของ NIPS เท่ากับ .95 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน พิสัย และ Independent t-test ผลการวิจัยมีดังนี้  ทารกในกลุ่มทดลองมีความปวดภายหลังการเจาะเลือดทุกช่วงเวลา น้อยกว่าทารกกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติได้แก่ วินาทีที่ 5 (t = 5.308, p < .001) วินาทีที่ 30 (t = 4.443, p < .001) นาทีที่ 1 (t = 4.965, p < .001) นาทีที่ 2 (t = 4.196, p < .001) นาที 3 (t = 4.516, p < .001) นาทีที่ 4 (t = 4. 233, p < .001) และนาทีที่ 5 (t = 2.472, p < .05)  1) ทารกในกลุ่มทดลองมีอัตราการเต้นของหัวใจหลังการเจาะเลือดวินาทีที่ 5 น้อยกว่าทารกกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 2.059, p < .05) ส่วนวินาทีที่ 30 นาทีที่ 1, 2, 3, 4 และ 5 มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p > .05)  2)  ทารกในกลุ่มทดลองมีค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดหลังการเจาะเลือดวินาทีที่ 30 นาทีที่ 1 และ 4 มากกว่าทารกกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = -2.757, p < .01, t = -3.106, p < .01 และ t = -2.101, p < .05 ตามลำดับ) ส่วนวินาทีที่ 5 นาทีที่ 2, 3 และ 5 มีความแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ (p > .05)  3)  ทารกในกลุ่มทดลองมีระยะเวลาการร้องไห้หลังการเจาะเลือดสั้นกว่าทารกกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 5.901, p < .001)  ผลการวิจัยครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าการให้ดูดนมมารดาอย่างมีแบบแผนสามารถลดความปวดในทารกที่ได้รับการเจาะเลือดทางหลอดเลือดดำ และนำไปประยุกต์ในการให้การพยาบาลเพื่อลดความปวดของทารกจากการทำหัตถการอื่นๆ นอกจากนี้พยาบาลโดยเฉพาะพยาบาลผู้ปฏิบัติการพยาบาลเด็กขั้นสูง ควรส่งเสริมให้ทารกดูดนมมารดาอย่างมีแบบแผนนี้มากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมความผูกพันระหว่างมารดา-ทารก และให้ทารกได้รับประโยชน์จากนมมารดาอย่างเต็มที่ ซึ่งจะส่งผลให้ทารกมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ และจิตสังคมที่เหมาะสมต่อไป   This quasi-experimental research aimed to examine effects of planned breastfeeding on pain in neonates receiving venipuncture. Sample included 40 normal neonates at 48-72 hours after birth waiting for blood drawing for thyroid hormone deficiency and Phenylketonuria screening. Purposive sampling was used to recruit the sample, who were normally born in Prach ‘abkirikhan hospital. The sample was divided into experimental group receiving planned breastfeeding and control group receiving routine nursing care. Each group contained 20 neonates. Research instruments consisted of the demographic questionnaire, the Neonatal Infant Pain Scale (NIPS) and the recording form of heart rate, oxygen saturation and duration of crying. Cronbach’s alpha coefficient (α) of the NIPS was .95. Data were analyzed by using frequency, percent, mean, standard deviation, range, and Independent t-test. Results revealed as follows:  1)  Neonates in the experimental group, after venipuncture, had significantly lower Pain score than those in the control group for every point of the assessment time. There were at 5 seconds (t = 5.308, p < .001), 30 seconds (t = 4.443, p < .001), 1 minute (t = 4.965, p < .001), 2 minutes (t = 4.196, p < .001), 3 minutes (t = 4.516, p < .001),4 minutes (t = 4. 233, p < .001) and minutes (t = 2.472, p < .05) 2)  Neonates in the experimental group had mean of heart rate significantly lower  Than those in the control group at 5 seconds after venipuncture (t = 2.059, p < .05). However, at 30 seconds, 1, 2, 3, 4 and 5 minutes after venipuncture, the sample’s means of heart rate of both groups were not significantly different.  3)  Neonates in the experimental group had means of oxygen saturation significantly  Higher than those in the control group at 30 seconds, 1 and 4 minutes after venipuncture (t = -2.757, p < .01, t = -3.106, p < .01 and t = -2.101, p < .05 respectively). However, at 5 seconds, 2, 3 and 5 minutes after venipuncture, the sample’s means of oxygen saturation of both groups were not significantly different.  4)  Neonates in the experimental group had significantly shorter duration of crying  After venipuncture than those in the control group (t = 5.901, p < .001)  These findings suggest that not only the planned breastfeeding could reduce pain in neonates receiving venipuncture, and apply to use for reduce pain in neonates receiving other invasive procedures, but nurse, especially pediatric advance practice nurse, would enhance and strengthen this planned breastfeeding to increase mother-neonate attachment as well. In addition, the neonates would receive optimal benefit from breast milk, which will be lead to appropriately physical, emotional and psychosocial growth and development

References

กรรณิการ์ บางสายน้อย. (2550). Feeding at the breast & breastfeeding assessment. ใน นิพรรณพร วรมงคล (บรรณาธิการ), คู่มือการอบรมผู้เชี่ยวชาญการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ (หน้า 92-115). กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

ขวัญใจ ปิยะวัฒนสกุล. (2547). ผลของการห่อตัวต่อการตอบสนองต่อความเจ็บปวดจากการดูดเสมหะในท่อหลอดลมคอในทารกคลอดก่อนกำหนด. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาการพยาบาลเด็ก, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยมหิดล.

ณัฏฐา อนุตรลัญจ์. (2546). ผลของการกระตุ้นสัมผัสต่อการตอบสนองความเจ็บปวดของทารกเกิดก่อนกำหนดที่ได้รับการเจาะเลือดบริเวณส้นเท้า. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาพยาบาลศาสตร์, บัณฑิตวิทยาลัย, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ดารุณี จงอุดมการณ์. (2546). ปวดในเด็ก : การพยาบาลแบบองค์รวมโดยยึดครอบครัวเป็นศูนย์กลาง (Pain in children: Holistic Family). ขอนแก่น: ศิริภัณฑ์ออฟเซ็ท.

นิตยา สินปรุ. (2550). ผลของการห่อตัวตามแนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกเพื่อลดความเจ็บปวดจากการเจาะเลือดบริเวณส้นเท้าในทารกแรกเกิด. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาการพยาบาลเด็ก, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยมหิดล.

Cassidy, K.L., Reid, G.L., McGrath, P.L., Finley, G.A., Smith, D.J., & Merley, C. (2002). Watch needle, watch TV: Audiovisual distraction in preschool immunization. Pain Medicine, 3(2), 108-118.

Codipietro, L., Ceccarelli, M., Ponzone, A. (2008). Breastfeeding or oral sucrose solution in term neonates receiving heel lance: A randomized controlled trial. Pediatrics, 122, 716-721.

Dilli, D. (2009). Breastfeeding has analgesic effect during infant vaccination. Pediatrics, 154, 385-390.

Efe, E., & Ozer, Z.C. (2007). The use of breastfeeding for pain relief during neonatal immunization injections. Applied Nursing Research, 20, 10-16.

Gray, L., Miller, L. W., Phillipp, B.L., & Blass, E.M. (2002). Breastfeeding is analgesic in healthy newborns. Pediatrics, 109, 590-593.

Downloads

Published

2021-11-17