ชีววิทยาบางประการของปูน้ำจืด 5 ชนิด ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย

Abstract

          ศึกษาชีววิทยาบางประการของปูน้ำจืด 5 ชนิด ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ตั้งแต่จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยการเก็บตัวอย่างด้วยไซ และมือ โดยใช้สวิงพลิกก้อนหิน และไม้ในแหล่งน้ำธรรมชาติ ได้แก่ ภูเขา น้ำตก ลำธาร ลำห้วย หนอง บึง นา พรุ และแม่น้ำ ระหว่างเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2558 – เมษายน พ.ศ. 2560 ผลการศึกษาพบว่า ปูน้ำจืด จำนวน 348 ตัว ประกอบด้วย ปูน้ำตก (Parathelphusa maculata De Man, 1879) (21 ตัว) และปูลำห้วย (Heterothelphusa fatum Ng, 1997) (189 ตัว) มีการแพร่กระจายเฉพาะในจังหวัดนราธิวาส ปูลำห้วย (Heterothelphusa insolita Ng & Lim, 1986) (64 ตัว) มีการแพร่กระจายในจังหวัดปัตตานีและนราธิวาส ส่วนปูนา (Sayamia sexpunctata (Lanchester, 1960)) (60 ตัว) และปูน้ำตก (Stoliczia panhai Ng & Naiyanetr, 1986) (14 ตัว) พบได้ทั้ง 3 จังหวัด อัตราส่วนเพศผู้:เมีย ในปูน้ำตก (Stoliczia panhai) มีความแตกต่างระหว่างเพศมากที่สุด ในขณะที่ปูลำห้วย (Heterothelphusa insolita) เป็นชนิดเดียวที่อัตราส่วนเพศเป็น 1:1 ปูนา (Sayamia sexpunctata) เป็นปูน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุด โดยมีน้ำหนักเฉลี่ย 18.67±7.12 กรัม ความกว้างกระดองเฉลี่ย 31.45±3.64 มิลลิเมตร ความยาวกระดองเฉลี่ย 37.47±4.69 มิลลิเมตร ความแตกต่างระหว่างความกว้างกระดองและความยาวกระดองเฉลี่ย 6.02±1.28 มิลลิเมตร และความกว้างกระดองเป็น 0.84±0.02 เท่าของความยาวกระดองโดยเฉลี่ย ส่วนปูลำห้วย (Heterothelphusa insolita) เป็นปูน้ำจืดที่มีขนาดเล็กที่สุด น้ำหนักเฉลี่ย 2.24±1.69 กรัม ความกว้างกระดองเฉลี่ย 16.93±4.79 มิลลิเมตร ความยาวกระดองเฉลี่ย 14.75±4.22 มิลลิเมตร ความแตกต่างระหว่างความกว้างกระดองและความยาวกระดองเฉลี่ย 2.18±1.12 มิลลิเมตร และความกว้างกระดองเป็น 1.15±0.10 เท่า ของความยาวกระดองโดยเฉลี่ย นอกจากนั้นพบว่า ปูน้ำตก (Parathelphusa maculata) มีความสัมพันธ์ระหว่างความกว้างกระดองกับน้ำหนักตัวในรูปสมาการ W = 2.6608CW0.3175 ปูลำห้วย (Heterothelphusa insolita) W = 2.6263CW0.3328 ปูลำห้วย (Heterothelphusa fatum) W = 2.6815CW0.3076 ปูนา (Sayamia sexpunctata) W = 2.5392CW0.3153 และปูน้ำตก (Stoliczia panhai) ดังสมาการ W = 2.5884CW0.3415 ข้อมูลด้านชีววิทยาของปูน้ำจืดทั้ง 5ชนิด จากการศึกษาครั้งนี้จะเป็นฐานข้อมูลที่เป็นตัวบ่งชี้คุณภาพของสิ่งแวดล้อมในอนาคตที่ได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมการทำเกษตรของเกษตรกรในพื้นที่           Some biological features of 5 freshwater crabs in southern of Thailand, Pattani Yala and Narathiwat provinces were studies by collecting freshwater crab samples by crab trap and hand with net, turning stone and wood in the natural resources: mountain, waterfall, stream, canal, deep pool, paddy field, swamp and river during August 2015 - April 2017. There were 348 items of freshwater crabs found in this study. Parathelphusa maculata De Man, 1879 (21 items) and Heterothelphusa fatum Ng, 1997 (189 items) were only observed to distribute in Narathiwat province. In addition, Heterothelphusa insolita Ng & Lim, 1986 (64 items) was distributed in Pattani and Narathiwat. Moreover, Sayamia sexpunctata (Lanchester, 1960) (60 items) and Stoliczia panhai Ng & Naiyanetr, 1986) (14 items) were observed to distribute in all three provinces. Sex ratio (M:F) in Stoliczia panhai was difference between the sexes in high level, while that in Heterothelphusa insolita was 1:1. Sayamia sexpunctata was the biggest freshwater crab with the weight average at 18.67±7.12 g, the carapace width average at 31.45±3.64 mm and the carapace length average at 37.47±4.69 mm. In addition, the difference between the carapace width and carapace length of this crab was 6.02±1.28 mm and the carapace width was 0.84±0.02 time of the carapace length by average. H. insolita was the smallest crab with the weight average at 2.24±1.69 g, the carapace width average at 16.93±4.79 mm and the carapace length average at 14.75±4.22 mm. Moreover, the difference between the carapace width and carapace length of this crab was 2.18±1.12 mm and the carapace width was 1.15±0.10 time of the carapace length by average. Relationships carapace width and body weight of P. maculata represented W = 2.6608CW0.3175, W = 2.6263CW0.3328 of H. insolita, W = 2.6815CW0.3076 of H. fatum, W = 2.5392CW0.3153 of S. sexpunctataand S. panhai represented W = 2.5884CW0.3415 .The biological data of 5 freshwater crabs from this study will be the basis of environmental quality in the future which is affected by the agriculturist’s behavior in the area.