ผลของปุ๋ยอินทรีย์จากขยะเศษอาหารในการเจริญเติบโตของต้นอ่อนทานตะวัน

Effect of Biofertilizer from Food Waste on Growth of Sunflower Sprouts

Abstract

งานวิจัยนี้เป็นการบูรณาการงานวิจัยและการบริการวิชาการให้กับชุมชนบริเวณรอบมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) โดยมุ่งเน้นศึกษาคุณสมบัติและการใช้ประโยชน์ด้านการเพาะปลูกของปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตจากขยะเศษอาหารที่ได้จากถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบไร้อากาศผลิตปุ๋ยแบบอัดเม็ดของ เทศบาลตำบลปราสารททอง จ.พระนครศรีอยุธยา จากการศึกษาพบว่า ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตได้จากขยะเศษอาหาร มีคุณลักษณะที่เป็นปุ๋ยอินทรีย์ได้ตามมาตรฐานของกรมวิชาการเกษตร ได้แก่ มีค่าความชื้นในช่วงร้อยละ 5.5-6.4 มีค่าความเป็นกรดด่าง (pH) เท่ากับ 6.33-6.58 มีค่าการนำไฟฟ้า (Electrical Conductivity; EC) เท่ากับ 1.89-2.02 mS/m ค่าอินทรียวัตถุ (Soil Organic Matter; OM) เท่ากับร้อยละ 31.65-45.12 ส่วนปริมาณธาตุอาหารหลัก ได้แก่ ค่าไนโตรเจนทั้งหมด (Total Nitrogen;TN) ค่าฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ (Available Phosphorus; avail.P) และ โพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ (Available Potassium; avail.K) พบว่า มีค่าร้อยละ 2.5-2.57 0.07-0.36 และ 0.27-1.66 ตามลำดับ ในส่วนของประสิทธิภาพของปุ๋ยอินทรีย์จากขยะเศษอาหารในการปรับปรุงดิน พบว่า อัตราส่วนดินต่อปุ๋ยอินทรีย์จากขยะเศษอาหาร 1:1 โดยน้ำหนัก เป็นอัตรา ส่วนที่มีค่าสารอาหารที่จำเป็นต่อพืชและเหมาะสมที่สุดการใช้ปลูกพืชมากที่สุด เมื่อเทียบกับอัตราส่วนอื่นๆ และเมื่อนำไปใช้ในการเพาะปลูก ต้นอ่อนทานตะวัน (Sunflower sprout) โดยเปรียบเทียบกับ การเพาะปลูกด้วยดิน ดินผสมปุ๋ยเคมี และ ปุ๋ยอินทรีย์จากขยะเศษอาหารเพียงอย่างเดียว พบว่า การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตจากขยะเศษอาหารผสมกับดินในพื้นที่ศึกษาในอัตราส่วน 1:1 โดยน้ำหนัก สามารถช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้นอ่อนทานตะวัน ได้เป็นอย่างดี เมื่อพิจารณาจากจำนวนต้นและร้อยละการงอกของต้นอ่อนทานตะวัน ความสูงลำต้น จำนวนใบ ความยาวใบ ความกว้างใบ ปริมาณคลอโรฟิลล์ในใบและไนโตรเจนของต้นอ่อนทานตะวัน เนื่องจากมีปริมาณธาตุอาหารที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของต้นพืช ปริมาณสารอาหารจำพวกไนโตรเจนที่เพียงพอและเหมาะสม นอกจากนี้ปริมาณธาตุอาหารจำพวกโพแทสเซียมที่มีปริมาณสูงในปุ๋ยอินทรีย์จากขยะเศษอาหาร มีความเหมาะแก่การเพาะปลูกพืชโตไวและมีระยะเวลาเก็บเกี่ยวน้อย เช่น ต้นอ่อนทานตะวัน  This work integrating the research and academic service contributed to the community around Thammasat University (Rangsit campus). The research aimed to study the properties of organic fertilizer made from the food waste of Canon (Thailand) Co., Ltd by anaerobic biological reactor owned by Prasart Thong Municipality, Ayutthaya Province, and also its benefits on plant growth. The results showed that the properties of organic fertilizer made from the food waste met the standards specified by Department of Agriculture with the moisture content of 5.5-6.4%, pH of 6.33-6.58, Electrical Conductivity (EC) of 1.89-2.02 mS/m, and Soil Organic Matter (SOM) of 31.65-45.12%. In addition, the amount of essential soil nutrients including Total Nitrogen (TN), Available Phosphorus (Avail.P), and Available Potassium (Avail.K) were 2.5-2.57%, 0.07-0.36% and 0.27-1.66% respectively. In terms of the effectiveness of fertilizer made from the food waste on improving the soil fertility, it was found that the 1:1 ratio of the soil to the organic fertilizer by weight was the optimum ratio with the proper amount of essential plant nutrients and the most suitable fertilizer application when compared to the others ratio. Moreover, the study also compared the uses of the soil only, the soil with chemical fertilizer, and the soil with organic fertilizer from the food waste to grow sunflower sprouts. Considering the germination numbers and percentage of plants, plant height, numbers of leaves, length and width of leaves, chlorophyll content in leaves and nitrogen content in plants, the results revealed that the organic fertilizer made from the food waste mixed with the soil from the studied area at the ratio of 1:1 by weight could greatly enhance the growth of the sunflower sprouts due to the nutrients needed for plant growth were adequately supplied. Furthermore, the richness of potassium in the organic fertilizer makes it suitable for cultivating the fast-growing plants with a short harvest time such as sunflower sprouts.