ไมโครนาโนบับเบิล : การไพรม์เมล็ดร่วมกับ Trichoderma asperellum ต่อความงอก ความแข็งแรง และการเจริญเติบโตของต้นกล้าคะน้า

Micro-Nano Bubble: Seed Priming with Trichoderma asperellum on Germination, Vigor and Seedling Growth of Chinese Kale (Brassica alboglabra)

Abstract

ปัจจุบันคะน้าเป็นผักทานใบที่ได้รับความนิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร และยังรับประทานได้ง่าย แต่การเพาะปลูกคะน้าทั้งในระดับเกษตรกรหรือในระดับอุตสาหกรรม มักประสบปัญหาการเพาะกล้าที่ได้ มีความแข็งแรงต่ำ งอกไม่สม่ำเสมอ จึงทำให้โรคและแมลงเข้าทำลายต้นกล้าได้ง่าย จากปัญหาดังกล่าวทำให้การแก้ปัญหา โดยวิธีการไพรม์เมล็ดพันธุ์คือหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยให้เมล็ดคะน้างอกได้ง่ายและสม่ำเสมอเพิ่มขึ้น ดำเนินการทดลองที่ห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีเมล็ดพันธุ์ สาขาวิชาพืชไร่ คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ วางแผนการทดลองแบบ Completely Randomized Design (CRD) โดยมีวิธีการทดลองคือ T1) เมล็ดที่ไม่ได้ผ่านการไพรม์, T2) การไพรม์เมล็ดด้วยน้ำกลั่น, T3) การไพรม์เมล็ดด้วยน้ำนาโนบับเบิลเพียงอย่างเดียว และ T4, T5, T6, T7 และ T8 เป็นการไพรม์เมล็ดด้วย T. asperellum อัตรา 0.1, 0.5, 1.0, 1.5 และ 2.0 กรัม ตามลำดับ ต่อเมล็ดพันธุ์คะน้า 8 กรัม ผลการทดลองพบว่า การไพรม์เมล็ดด้วยน้ำนาโน บับเบิลร่วมกับ T. asperellum อัตรา 1.0 กรัม ทำให้เมล็ดมีความเร็วในการโผล่พ้นเมล็ดของรากแรกเกิด และความงอกสูงมากกว่าและแตกต่างกันในทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบกับเมล็ดที่ไม่ได้ผ่านการไพรม์ เมื่อตรวจสอบในสภาพห้องปฏิบัติการ ส่วนคุณภาพเมล็ดพันธุ์หลังการเร่งอายุพบว่า การไพรม์เมล็ดด้วยน้ำนาโนบับเบิลทุกวิธีการ การโผล่พ้นเมล็ดของรากแรกเกิด ความเร็วในการโผล่พ้นเมล็ดของรากแรกเกิด ความงอก และความเร็วในการงอกสูงมากกว่าและแตกต่างกัน ในทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบกับเมล็ดที่ไม่ได้ผ่านการไพรม์ ภายใต้การทดลองในห้องปฏิบัติการ ดังนั้นการไพรม์เมล็ดด้วยน้ำนาโนบับเบิลร่วมกับ T. asperellum อัตรา 1.0 กรัม เป็นวิธีการที่เหมาะสมที่ทำให้เมล็ดคะน้ามีการงอกที่ดี และสามารถยกระดับคุณภาพเมล็ดพันธุ์คะน้าได้   Currently, Chinese kaleis commonly consumed as leafy vegetable because it has high nutrients and easy to eat. Nevertheless, it was found that the available Chinese kale seedlings which are used for cultivation either at a farmer level or industrial level have low vigor and inconsistent germination. As a result, this allows disease and insects to destroy the seedlings easily. From the aforementioned problem, seed priming is one of the alternatives to help make seeds germinate more consistent. The experiment was conducted at Seed Technology Laboratory and Biotechnology Laboratory, Field Crop Program, Faculty of Agricultural Production, Maejo University. The Completely Randomized Design is used as the experimental design and there were seven controlled groups which include T1) non-primed seeds, T2) seeds primed with distilled water, and T3, T4, T5, T6, and T7 was seeds primed with nano-bubble water and eight grams of seeds primed with 0.1, 0.5, 1.0, 1.5 and 2.0 grams of T. asperellum. The results are the following. First, seeds primed with nano-bubble water and 1.0 grams of T. asperellumhad higher speed of radicle emergence, germination percentage when compared to non–primed seeds. The differences were found statistically significant when tested under the laboratory condition. Second, regarding the quality of the seeds after accelerated aging, seeds primed with all ratios of nano- bubble water had higher radicle emergence percentage, speed of radicle emergence, germination percentage, and speed of germination compared to nonprimed seeds. The differences were found to be statistically significant when tested under laboratory conditions. In conclusion, priming Chinese kale seeds with nano-bubble water and 1.0 grams of T. asperellum is considered the most appropriate ratio to enhance the quality of Chinese kale seeds.