การพัฒนาการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบเน้นงานปฏิบัติ (Task-based learning) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
Keywords:
ภาษาอังกฤษ, การศึกษาและการสอน, ประถมศึกษา, กิจกรรมการเรียนการสอน, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, การเรียนรู้แบบเน้นงานปฏิบัติAbstract
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบเน้นงานปฏิบัติ (Task-based learning)หลังเรียนกับเกณฑ์ที่กำหนด และศึกษาเจตคติของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบเน้นงานปฏิบัติ (Task-based learning) กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนวัดท่าศาลาราม (เรือนบุญนาคาลัย) อำเภอบ้านลาด จังหวัดลพบุรี จังหวัดเพชรบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2 ภาคเรียน 1 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 23 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) ใช้แบบแผนการวิจัยแบบกลุ่มเดียว (One group pretest – posttest design) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบเน้นงานปฏิบัติ (Task-based learning) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ และแบบวัดเจตคติต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบเน้นงานปฏิบัติ (Task-based learning) ใช้เวลาในการทดลอง 12 ชั่วโมง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t-test แบบ One sample t-test ผลการวิจัย พบว่า 1.นักเรียนที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบเน้นงานปฏิบัติ (Task-based learning) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ .05 นักเรียนที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบเน้นงานปฏิบัติ (Task-based learning) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ นักเรียนมีเจตคติต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบเน้นงานปฏิบัติ (Task-based learning) อยู่ในระดับดี The purposes of this research were to compare the achievement of English after studying through task-based learning with the set criterion of PrathomSuksa III students and to study attitude towards learning English by using task-based learning of PrathomSuksa III students. The sample group consisted of 23 students from one classroom of PrathomSuksa III in the first semester of the academic year 2013 at Watthasalaram School, under the Office of Phetchaburi Primary Educational Service Area Office 2. They were purposively sampled. The design of this research was a one-group pretest-posttest design. The instruments used in this study were learning activities of task-based learning lesson plans, the English achievement test and the attitude-evaluation form. The research took 12 hours. The statistics used for data analysis was percentage, mean, standard deviation, and One sample t-test. The research finding were as follows: 1. After the students were taught by utilizing learning activities of task-based learning, the posttest score was found statistically significant higher than that of the pretest at the .05 level. 2. After the students were taught by utilizing learning activities of task-based learning, the posttest score was not found statistically significant higher than that of the given criterion. 3. The students taught by the utilizing learning activities of task-based learning felt highly positive attitude towards English studyingDownloads
Issue
Section
Articles