การประเมินความต้องการจำเป็นในด้านการสรรหาและเลือกสรรครูผู้ช่วยในสังกัดกรุงเทพมหานคร

Abstract

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินความต้องการจำในการสรรหาและเลือกสรรครูผู้ช่วยในสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยการวิเคราะห์จากเอกสารเบื้องต้น การสัมภาษณ์ผู้บริหารของสำนักการศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อนำไปสร้างแบบประเมินความต้องการจำเป็น ลักษณะของแบบประเมินเป็นแบบสอบถาม โดยสอบถามกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประกอบด้วย 1) ข้าราชการในสังกัด กลุ่มงานประเมินบุคคลการสรรหาและมาตรฐานวิชาชีพ กองการเจ้าหน้าที่ สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร จำนวน 8 ท่าน 2) ผู้อำนวยการโรงเรียน ในสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 437 ท่าน โดยคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ วิธีดำเนินการวิจัย ผู้วิจัยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกใช้วิธีเชิงคุณภาพ ได้แก่ การสัมภาษณ์ผู้บริหารของสำนักการศึกษา ในสังกัดกรุงเทพมหานคร ผู้วิจัยใช้การสรุปประเด็นและการตีความข้อมูล (content analysis) เพื่อนำไปสร้างแบบประเมินความต้องการจำเป็นในการสรรหาและเลือกสรรครูผู้ช่วยในสังกัดกรุงเทพมหานคร ส่วนที่สองใช้วิธีเชิงปริมาณได้แก่ การคำนวณค่าสถิติพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง และการประเมินความต้องการจำเป็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป คำนวณค่าสถิติ ข้อมูลพื้นฐานของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสองกลุ่ม ได้แก่ ร้อยละ ค่าความเที่ยง สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟาของ Cronbach (Alpha Coefficient)  ผลการวิจัยพบว่า ผลการประเมินความต้องการจำเป็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีอันดับสูงที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ 1) ความต้องการจำเป็นให้กรุงเทพมหานครทำข้อตกลงร่วมกับองค์กรที่ผลิตบัณฑิตครูเพื่อให้ได้ครูผู้ช่วยเข้ามาบรรจุโดยไม่ต้องสอบแข่งขัน 2) ต้องการให้ส่งครูผู้ช่วยไปบรรจุตามหน่วยงานที่ร้องขอไว้ สามารถทำการสอนได้ทันเวลากับความต้องการของหน่วยงานนั้นๆ พอดี 3) ต้องการให้มีการขอร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาที่ผลิตบัณฑิตครูให้ผลิตเนื้อหาวิชาที่มีความใกล้เคียง สำหรับการอภิปรายและข้อเสนอแนะในงานวิจัยนี้ ควรนำไปใช้สำหรับการวิจัยในครั้งต่อไป This study was aimed as assessing the recruitment and selection needs of assistant teachers under the jurisdiction of the Bangkok Metropolitan Administration by assessing preliminary documents and interviewing the administrators of educational institutions under the jurisdiction of  Bangkok Metropolitan to create needs assessment froms. The assessment froms were questionnaires for the people involved, namely, eight civil servants under the jurisdiction of the Professional Standards and Recruitment Personnel Evaluation Work Group, Personnel Division, Education Office, Bangkok; 2) four hundred and thirty-seven school administrators under the jurisdiction of the Bangkok Metropolitan Administration who were purposively sampled in line with set criteria. Concerning the research methodology, the researcher analyzed the data by dividing into two parts. The first part was analyzed by qualitative means such as interviewing the executives of the Education Office under the jurisdiction of the Bangkok Metropolitan Administration. The researcher performed content analysis to create froms assessing the recruitment and selection needs for assistant teachers under the jurisdiction of the Bangkok Metropolitan Administration. The second part was analyzed by quantitative means such as calculating basic statistics of the sample group and assessing the requirements and necessity of the people involved by using program to calculate the statistics and basic data of both groups of people involved, such as percentage, reliability values and Cronbach’s Alpha Coefficient.  According to the findings, the three highest needs assessment of the people involved were found to be as follow: 1) The need for the Bangkok Metropolitan Administration to make agreement with organizations producing teaching graduates to assure that teaching assistants become teachers without having to pass competitive tests; 2) The need for teacher assistants to be sent as teachers to the organizations requesting them in order to be able to teach in time with needs of that organizations and 3) The need to request cooperation with higher education institution producing teacher graduates to achieve similar contents and subject. Discussion and recommendations of this study should be implemented in future studies.