การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการการสร้างตัวตนของนักมวยไทยจากแนวคิดอำนาจความรู้ภายในความสัมพันธ์เชิงอำนาจกับความรู้ทางการกีฬามวยไทยด้วยวิธีการของเทคโนโลยีแห่งอำนาจเพื่อสร้างตัวตนของนักมวยไทยที่ถูกผลิตจากภาคปฏิบัติการอันเป็นเหตุการณ์ในกระบวนการของการเป็นนักมวยไทยตามวาทกรรมหลักที่เป็นแนวปฏิบัติที่เป็นจริง ออกกำลังกาย ฝึกทักษะพื้นฐานมวยไทย ฝึกทักษะเชิงมวยไทย และการควบคุมอาหารและลดน้ำหนักสร้างกลไกอำนาจเชิงวินัยด้วยการสังเกต การตัดสินเพื่อสร้างความเป็นปกติ การตรวจสอบจากการควบคุม กำกับ เฝ้าระวังตนเองของนักมวยไทยที่มีการปฏิบัติจริงทำให้เกิดตัวตนของนักมวยไทยขึ้น เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพด้วยวิธีการศึกษาเรื่องเล่าประสบการณ์ของนักมวยไทยอาชีพทั้งสิ้น 9 คน ที่ฝึกซ้อมอยู่กับค่ายมวยไทยในเขตภาคกลางจาก การสร้างเครื่องมือเพื่อเป็นแนวทางการสนทนาและนำประสบการณ์ที่ได้มาวิเคราะห์ข้อมูลตามแบบฟูโกเดียนเพื่อให้เห็นประเด็นหลักของเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้สร้างความเป็นตัวตนของนักมวยไทย ผลการวิจัยพบว่า นักมวยไทยเข้าใจว่าตัวตนของเขานั้นเป็นนักมวยที่มีตัวตนของเขานั้นเป็นนักมวยที่มีตัวตนเป็นนักมวยไทยอาชีพที่สามารถต่อสู้บนสังเวียนจนเป็นนักมวยแชมป์เวทีต่าง ๆ จากนักมวยเวทีงานวัด ไปเป็นนักมวยเวทีภูธร นักมวยเวทีมาตรฐานมีตัวตนเป็นนักมวยหมัด นักมวยเตะ นักมวยเข่า นักมวยศอก นักมวยอาวุธครบเครื่อง มีตัวตนเป็นนักมวยแชมป์เงินพัน นักมวยเงินหมื่น นักมวยเงินแสน ซึ่งล้วนแล้วแต่ถูกสร้างผ่านปฏิบัติการร่างกายที่แข็งแกร่ง ปฏิบัติการทักษะแม่ไม้มวยไทย เทคนิคเชิงมวยไทย ควบคุมอาหารและลดน้ำหนักโดยตัวเอขาเองเชื่อโดยสนิทใจและไม่ตั้งคำถามจนตัวเขาเองนั้นเปรียบเสมือนรางกายที่สยบยอมThe objective of the current research was to reveal the process of constructing the self of Thai boxers. It based on the concept of power and knowledge in the power relation system and the knowledge on Thai boxing sport through the technologies of power that construct the self of Thai boxer being produced from the practical session as an event in the process to become Thai boxer following the dominant discourse as an actual guideline for practice. The guideline includes exercise for physical strength, training basic Thai boxing skills, training Thai boxing tactical skills, food control, and weight loss. The disciplinary power mechanism was established by means of observation, normalizing judgments, and examination in the control, supervision, and the boxer’s self-surveillance in actual practice that form the self of Thai boxer. This research adopted a qualitative study by investigating the narratives on experiences of 9 Thai professional boxers in the context of Thai boxer’s training in Thai boxing gyms in the central region as the study field, using a constructed guiding tool for conversations. The experiences derived from the conversations were analyzed with Foucauldian approach to display the key issues of stories that construct the self of Thai boxer. As suggested by the research results, Thai boxers understood their self as the boxer being produced to be professional boxer with capability of fighting on the ring to attain championships on different arenas. They made their ways from the boxer on the temple fair arena, provincial arena, standard arena, with the self as fist, foot, knee, elbow, full-armed boxers, and with the self as the thousands, ten thousands, hundred thousands baht champiom boxers. All of these were constructed through the practices of physical strength, martial art of Thai boxing skills, Thai boxing tactical techniques, weight loss and food control in which the boxers themselves trustfully and unquestionably believed to the extent that they become just like a docile body.
