การเปิดรับข่าวสาร และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการออกกำลังกายของ ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพจากสื่อเฟซบุ๊ก

Abstract

          วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้เพื่อศึกษา 1) การเปิดรับข่าวสาร การมีส่วนร่วมในกิจกรรม ความ น่าเชื่อถือ และการใช้ประโยชน์จากข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมการออกกำลังกายของชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ จากสื่อเฟซบุ๊ก 2) เพื่อศึกษาความแตกต่างระหว่างลักษณะทางประชากรของผู้รับข่าวสารกับการเปิดรับ ข่าวสาร 3) เพื่อศึกษาความแตกต่างระหว่างลักษณะทางประชากรของผู้รับข่าวสารกับการมีส่วนร่วมใน กิจกรรม 4) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความน่าเชื่อถือกับการใช้ประโยชน์จากข่าวสาร กลุ่มตัวอย่างที่ ผู้วิจัยศึกษา คือ ผู้รับข่าวสารทั้งเพศชายและหญิง ที่มีอายุ 18-45 ปี เป็นสมาชิกของเฟซบุ๊ก มีการเปิดรับ ข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมการออกกำลังกายของชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพจากสื่อ เฟซบุ๊ก ใช้รูปแบบของการ วิจัยเชิงสำรวจ โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูล กลุ่มตัวอย่างจำนวนทั้งสิ้น 430 คน เวลาในการ ศึกษาวิจัยคือ เดือนตุลาคม พ.ศ. 2559-กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ผลการ ศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่าง 430 คน ส่วน ใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุ 25-31 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี มีลักษณะการเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊ก มีการ เปิดรับข่าวสาร 3-4 วันต่อสัปดาห์ มีระยะเวลาเปิดรับเฉลี่ย ครั้งละ 1-30 นาที มีส่วนร่วมในกิจกรรม อยู่ใน ระดับปานกลาง ความน่าเชื่อถือกับการใช้ประโยชน์จากข่าวสาร อยู่ในระดับมาก          ผลทดสอบสมมติฐานพบว่า 1) ผู้รับข่าวสารที่มีลักษณะทางประชากรแตกต่างกัน มีการเปิดรับ ข่าวสารแตกต่างกัน (P = 0.050) 2) ผู้รับข่าวสารที่มีลักษณะทางประชากรแตกต่างกัน มีส่วนร่วมในกิจกรรม ไม่แตกต่างกัน 3) ความน่าเชื่อถือ มีความสัมพันธ์กับการใช้ประโยชน์ข่าวสาร (r = 0.528 P = 0.000)           The purpose of this research was to 1) information exposure from Facebook, participation of exercise activities, reliability, and the usage of news from Facebook 2) the differences between population characteristics and Facebook information exposure 3) the differences between population characteristics and the participation in the exercise activities from Facebook and 4) the interrelationship between reliability, and the usage of the exercise activities news from Facebook. The sample group included male and female information receivers who were in the age range of 18-45 years old. They were Facebook members and followed news from Facebook pages such as Jogging Club for Thai Health, 42,195 K Club...We Will Run Marathons Together, Jogging Club for Thai Health-the west region network, and Suan Tamnaknam Chonburi Jogging Club. There were 430 respondents in this research. The results shown that there were more male respondents than females. Most of them were in the age between 25 – 31 years old. The education level was undergraduate, and most respondents earn between 15,001 – 20,000 baht/ month. The respondents were Facebook fan page who circulate the exercise activity news and receive the information about 3-4 times/ week and they consumed the news 1-30 minutes each time. They had participate in the club's activities from facebook at a moderate level. The reliability and The overall news usage from Facebook about the club's activities was at the highest level. The hypothesis testing found that 1) the information receivers, who were different in population characteristics, have different exposure. 2) There was no significance between the differences of population characteristics and the participation in the club's activities. 3) There was an interrelationship between the reliability and the information usage from Facebook.