เงินอัดฉีดนักกีฬา... เส้นทางสู่การพัฒนากีฬาของประเทศ จริงหรือ

Abstract

จากมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่แอตแลนต้าเกมส์ กีฬามวยสากลสมัครเล่นของประเทศไทย สามารถพิชิตเหรียญทองได้ 1 เหรียญ และเหรียญทองแดงอีก 1 เหรียญ ทำให้วงการกีฬาในบ้านเราดูคึกคัก ประชาชน สื่อมวลชน รัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างร่วมกัน จัดงานเฉลิมฉลองเหรียญทองโอลิมปิกครั้งนี้อย่างสมเกียรติ นักกีฬาที่ทำให้ความฝันของวงการกีฬากลายเป็นความจริง คือ คุณสมรักษ์ คําสิงห์ หนุ่มลูกข้าวนึ่งจากจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้ที่สามารถนำธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาในเวทีกีฬาระดับโลก ผลจากความสำเร็จครั้งนี้ คุณสมรักษ์ คำสิงห์ ได้กลายเป็นเศรษฐีย่อย ๆ ขึ้นมาทันที จากเงินอัดฉีดที่ได้รับและของรางวัลต่าง ๆ รวมทั้งสิ้นมีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลก็บอกว่าจะไม่เก็บภาษีเงินได้ด้วยและที่น่ายินดียิ่งขึ้นคือ คุณ สมรักษ์ ยังจะได้รับเกียรติยศ โดยได้เลื่อนยศทางทหารจากพันจ่าเอกเป็นเรือตรีแห่งราชนาวีไทย ตลอดจนได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ได้รับการจารึกชื่อและเกียรติประวัติลงยังฐานของอนุสาวรีย์เหรียญทองโอลิมปิกที่จังหวัดบ้านเกิดอีกด้วย ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็ว่าโชคดียิ่งกว่าถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 เสียอีก ท่านลองคิดดูสิว่าขณะนี้จะมีเยาวชนไทยอีกมากมายขนาดไหนที่อยากจะเป็นนักกีฬา  แต่ขณะที่ช่วงเวลาแห่งความปิติยินดีและปลาบปลื้มกับเหรียญทองโอลิมปิกของเราค่อย ๆ สร่างซาลงไปแล้ว แต่ความรุนแรงแห่งกระแสความต้องการพัฒนาการกีฬาของประเทศยังคงค้างอยู่ ทำให้เป็นที่สงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า “เงินอัดฉีดนักกีฬา” เป็นเส้นทางพัฒนาการกีฬาของประเทศได้จริงหรือเปล่า