การศึกษาและพัฒนาสื่อสิ่งพิมพ์หนังสือภาพเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้วัฒนธรรมอีสาน เรื่องฮีตสิบสอง

The Studies and Development of pop-up Books as a Printted Media to Encourage Heet 12, Northeastern Tradition, Learning

Abstract

การศึกษาและพัฒนาสื่อสิ่งพิมพ์หนังสือภาพเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้วัฒนธรรมอีสาน เรื่องฮีตสิบสองนี้ ผู้วิจัยได้ตั้งวัตถุประสงค์การวิจัยไว้สามประการ คือ เพื่อศึกษาและพัฒนา สื่อสิ่งพิมพ์หนังสือภาพเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้วัฒนธรรมอีสานเรื่องฮีตสิบสอง เพื่อหาความพึงพอใจจากกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อสื่อสิ่งพิมพ์หนังสือภาพเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้วัฒนธรรมอีสานที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้น และเพื่อหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้จากนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาช่วงชั้นที่สองของโรงเรียนเมืองร้อยเอ็ด กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาช่วงชั้นที่สองจำนวน ทั้งหมด 72 คน ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 4-5-6 โรงเรียนเมืองร้อยเอ็ด รวบรวม ข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญจำนวน 12 ท่าน เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยคือสื่อสิ่งพิมพ์ หนังสือภาพเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้วัฒนธรรมอีสานเรื่องฮีตสิบสอง แบบทดสอบความรู้ก่อน และหลังการเรียนเพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา แบบสอบถามข้อมูลพื้นฐานความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อสื่อสิ่งพิมพ์ และ SPSS สำหรับใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล เทคนิคทางสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (average) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S) และการทดสอบค่า t (t-test) ผลการประเมิน คือ ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 3 ด้านเห็นด้วยอยู่ในระดับมาก กับความเหมาะสมของสื่อสิ่งพิมพ์หนังสือภาพเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้วัฒนธรรมอีสานเรื่องฮีตสิบสองที่ได้ศึกษาพัฒนาขึ้นที่ค่าเฉลี่ย 4.05 นักเรียนกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 72 คน มีความพึงพอใจต่อสื่อสิ่งพิมพ์ หนังสือภาพเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้วัฒนธรรมอีสานเรื่องฮีตสิบสองอยู่ในระดับมากที่ค่าเฉลี่ย 4.36 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ก่อนและหลังการเรียนรู้ มีความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05  The purposes of this dissertation were to study and develop a pop-up book as a printed media to encourage Heet 12, northeastern tradition learning, study students satisfaction towards the media and measure learning achievement of students having used the book as a means of studying. The pop-up book was developed and measured for suitability and accuracy in E-san culture, children literature and book illustration in which a 5-point scale was implemented, then evaluated by specialists of the described areas. The sampled groups were 72 students from the 4th, 5th and 6th grade of Muang Roi-Et School. Tools used included a questionnaire to measure satisfaction, a pretest and a posttest exam to measure learning to measure learning achievement. Student satisfaction level and learning achievement were gathered, classified, tabulated and then, evaluated via SPSS. The statistical techniques employed in data analysis included mean (average), standard deviation and t-test. The results of the studies were that the developed media achieved satisfactory levels of suitability and accuracy in the fields previously described, scoring 4.05. Student satisfaction averaged at 4.36 indicating that the sample group was somewhat satisfied with the book. Results from the dependent t-tests also indicated that the subjects' average score after having used the book as a means of studying were higher than before using the book at the significance level of 0.05.