การเปรียบเทียบต้นทุนและผลตอบแทนการทำสวนผลไม้อย่างเดียวกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ในจังหวัดระยอง

Abstract

          การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบต้นทุนและผลตอบแทนของการทำสวนผลไม้ของเกษตรกรกับการทำสวนผลไม้เป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในจังหวัดระยอง เพื่อใช้เป็นข้อมูลแก่หน่วยงานรัฐ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการแนะนำเกษตรกรในการเพิ่มรายได้จากการทำการท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยใช้วิธีสัมภาษณ์เชิงลึกเกษตรกรที่ทำการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ในจังหวัดระยองแบบครอบครัวจำนวน 7 ราย ข้อมูลในการสัมภาษณ์ประกอบด้วยต้นทุน รายได้ ค่าใช้จ่าย ในการทำสวน และท่องเที่ยวเชิงเกษตร ผลการศึกษาพบว่าเกษตรกรที่ทำสวนผลไม้สามารถมีกำไรเพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนมาทำการท่องเที่ยวเชิงเกษตรโดยมีกำไรเพิ่มขึ้น 2.09 เท่า ณ ราคาผลไม้ปกติและเมื่อเปรียบเทียบผลกำไรจากการทำการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกับการทำสวนอย่างเดียว ณ ราคาผลไม้ตกต่ำพบว่าการทำการท่องเที่ยวเชิงเกษตรสามารถทำกำไรเพิ่ม 12.17 เท่า จากผลดังกล่าวทำให้ทราบว่าการทำการท่องเที่ยวเชิงเกษตรสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรในช่วงราคาผลไม้ตกต่ำ และนอกจากนี้เกษตรกรสามารถลดรายจ่ายในการขนส่งสินค้า เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาซื้อที่สวนของเกษตรกรโดยตรง           The purpose of this article is to compare the costs and return between fruits farm only businesses with agro tourism businesses in Rayong province. The results benefit the government sector and other stakeholders in increasing farmer’s income by introducing agro tourism. In-depth interviews with 7 owners of agro tourism family businesses were conducted to collect data. The results show that when farmers change from fruits farm business only to agro tourism business, their income increase 2.09 times when the market price for fruits is normal and up to 12.17 times when the market price is low. The ratio of income indicated that agro tourism has helped generate income for farmers as the market price of fruits is low. In addition, farmers reduce transportation costs because tourists can purchase fruits directly at their farm.