การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนร่วมกับการใช้แผนผังมโนทัศน์ เรื่อง การรักษาดุลยภาพในร่างกาย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
Keywords:
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน, แผนผังมโนทัศน์, ประสิทธิภาพ, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, ความพึงพอใจAbstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนร่วมกับการใช้แผนผังมโนทัศน์ ตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการรักษาดุลยภาพในร่างกาย ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนร่วมกับการใช้แผนผังมโนทัศน์ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนร่วมกับการใช้แผนผังมโนทัศน์ เรื่องการรักษาดุลยภาพในร่างกาย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสามชัย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 1 ห้อง ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) 35 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการรักษาดุลยภาพในร่างกายโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนร่วมกับการใช้แผนผังมโนทัศน์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 11 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการรักษาดุลยภาพในร่างกาย 3) แบบประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที t-test (dependent sample) ผลการวิจัยปรากฏดังนี้ 1. ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ร่วมกับการใช้แผนผังมโนทัศน์ เรื่องการการรักษาดุลยภาพในร่างกาย มีค่าเท่ากับ 86.83/81.57 2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนร่วมกับการใช้แผนผังมโนทัศน์ เรื่องการรักษาดุลยภาพในร่างกาย มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้สูงกว่าก่อนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 4.72 อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด This study aimed: 1) To study the effectiveness of learning activities using computer-assisted instruction with concept mapping method as a 75/ 75 basis. 2) To compare learning achievement entitled Homeostasis in a Science course of Mathayomsuksa 4 (grade 10) students before and after using computer assisted instruction with concept mapping method. 3) To observe satisfaction of Mathayomsuksa 4 (grade 10) students towards learning activities using computer assisted instruction with concept mapping method in Homeostasis course. The sample used in the study consisted of Mathayomsuksa 4 students attending Samchai School, Amphur Samchai, Changwat Kalasin from one classroom, 35 students, in semester 2, academic year 2016 were obtained using the cluster random sampling technique. The instruments used in the research were plans for organization of learning activities of the science learning strand for Mathayomsuksa 4 students entitled Homeostasis using computer assisted instruction with concept mapping method total 11 plans 2) The test of achievement on Homeostasis 3) Satisfaction rating form of learning activities using computer-assisted instruction with concept mapping method. The basic statistics used for analyzing the collected data were standard deviation, percentage and t-test (Dependent sample). The results of the study were as follows 1. The effectiveness of learning activities using computer-assisted instruction with concept mapping method on Homeostasis is equal to 86.83/ 81.57 2. The students who learned using computer-assisted instruction with concept mapping method on Homeostasis have higher learning achievement after learning than before. The level of statistical significance is equal to .01 3. The average rate of student’s satisfaction level toward learning activities is equal 4.72 which means very satisfying.Downloads
Issue
Section
Articles