การพัฒนาแบบวัดจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับนักเรียน

A Development of an Information and Communication Technology Ethic Test for Students

Authors

  • สุชาติ ใจสถาน

Keywords:

แบบวัดจริยธรรม , เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, การวิเคราะห์องค์ประกอบ, Ethic Test, Information and Communication Technology, Factor Analysis

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแบบวัดจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับนักเรียน ตรวจสอบคุณภาพและสร้างปกติวิสัยของแบบวัดจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำหรับนักเรียนที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยเป็นนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 (มัธยมศึกษาปีที่ 1- 3) ปีการ ศึกษา 2552 ของโรงเรียนสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรปราการ เขต 1 และเขต 2 จํานวน 3,872 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบสองขั้นตอน แบบวัดจริยธรรมที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ คือ ความเป็นส่วนตัว ความถูกต้อง ความเป็นเจ้าของ และการเข้าถึงข้อมูล ตรวจสอบคุณภาพ ด้วยการตรวจสอบความตรง (Validity) ได้แก่ ความตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) การทำหน้าที่ต่างกันของข้อคำถาม (Different Item Functioning: DIF) ความตรงเชิงโครงสร้าง (Construct Validity) ตรวจสอบอำนาจจำแนก ตามโมเดล GRM (Graded Response Model) และตรวจสอบความเที่ยง (Reliability ด้วยการวิเคราะห์สัมประสิทธิ์การสรุปอ้างอิง (G-Coefficient)  ผลการวิจัยพบว่า 1) แบบวัดจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่พัฒนาขึ้น มีจำนวนข้อคำถาม 37 ข้อ ได้แก่ ความเป็นส่วนตัว 1 ข้อ ความถูกต้อง 11 ข้อ ความเป็นเจ้าของ 7 ข้อ และการเข้าถึงข้อมูล 8 ข้อ 2) คุณภาพของแบบวัดจริยธรรมที่พัฒนาขึ้น มีคุณภาพด้านความตรง คือ ความตรงเชิงเนื้อหา มีค่ามัธยฐาน ระหว่าง 4.00 ถึง 5.00 พิสัยระหว่างควอไทล์ มีค่าระหว่าง 0.00 - 1.00 และ ดัชนีการทำหน้าที่ต่างกันของข้อคำถาม (S) มีค่าระหว่าง -0.053 ถึง (0.154 ความตรงเชิงโครงสร้าง พบว่าโมเดลองค์ประกอบของจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ ข้อคำถามทั้ง 37 ข้อมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .01 พารามิเตอร์อำนาจจำแนก (a) มีค่าระหว่าง 0.31 ถึง 4.08 สัมประสิทธิ์การสรุปอ้างอิง (G-Coefficient) ทั้งฉบับเท่ากับ 0.928 เมื่อพิจารณาเป็นรายองค์ประกอบได้แก่ ความเป็นส่วนตัว ความถูกต้อง ความเป็นเจ้าของ และการเข้าถึงข้อมูล มีค่าสัมประสิทธิ์การสรุปอ้างอิงเท่ากับ 0.825, 0.812, 0.784 และ 0.830 ตามลำดับ 3) ปกติวิสัยของแบบวัดจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จัดทำเป็น 3 ระดับได้แก่ จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในระดับสูง มีตำแหน่งเปอร์เซนไทล์ระหว่าง 78.0 – 100.0  (สเตไนน์ที่ 7-9) ระดับปานกลาง มีตำแหน่งเปอร์เซนไทล์ ระหว่าง 24.0-77.9 (สเตไนน์ที่ 4-6) และนักเรียนที่มีจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในระดับควรได้รับการแก้ไขมีตำแหน่งเปอร์เซนไทล์ระหว่าง 0-23.9 (สเตไนน์ที่ 1-3)  The purposes of this research were: 1) to develop the information and communication technology ethic test for students. 2) to verify the quality and 3) to construct the norms of the information and communication technology ethic test for students. The samples were 3,872 students selected by two-stage random sampling technique. The students selected were studying in grade 7 to 9 (Mattayomsuksa 1 - 3) under the jurisdiction of the Office of Education area 1 and 2 of Samutprakan province in the 2009 academic year. The test was designed to four component namely, Privacy, Accuracy, Property and Accessibility. The quality of the test consisted of validity: content validity, differential item functioning, construct validity. Discrimination parameter by Graded Response Model (GRM) and reliability by Generalizability Coefficient (G-Coefficient).  The finding were as follows:  1) The information and communication technology ethic test for students consisted of 37 Items. There were 11 items of Privacy, 11 items of Accuracy, 7 items of Property and 8 items of Accessibility. 2) The quality of test was validity consisted of (1) content validity: all items had a median (Mdn) of 4.00 to 5.00, with an inter-quartile range (IQR) of 0.00 to 1.00, (2) The index of differential item functioning (8) was from -0.053 to 0.154 and (3) The construct validity of the information and communication technology ethic test for student had corresponded to the empirical data. All of 37 items had significant statistics at .01 level. Discrimination parameter (Qi) ranged from 0.31 to 4.08. G - Coefficient of the test was 0.928 while the G-Coefficient of each factors namely: Privacy, Accuracy, Property and Accessibility were 0.825, 0.812, 0.784 and 0.830 respectively. 3) The norms of the test were divided into 3 levels: percentile rank between 78.0 to 100.0 (stanine) 7 to 9 indicating high level of ethic; percentile rank between 24.0 to 77.9 (stanine 4 to 6) indicating normal ethic and percentile rank between 0.0 to 23.9 (stanine1 to 3) indicating rectification should be done.

Downloads

Published

2024-03-14