แนวทางการพัฒนาโรงเรียนนโยบายพิเศษในจังหวัดชลบุรี : กรณีศึกษาเฉพาะโรงเรียนสอนภาษาจีน

A Development Approach for a Special Policy School in Chon Buri: A Case Study of a Chinese Language Teaching School

Authors

  • สุวิชัย โกศัยยะวัฒน์

Keywords:

โรงเรียน – การบริหาร, โรงเรียนสอนภาษาจีน

Abstract

การวิจัยเรื่องนี้เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาโรงเรียนนโยบายพิเศษในจังหวัดชลบุรี กรณีศึกษาเฉพาะโรงเรียนวุฒิวิทยาซึ่งเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีนเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ปัญหาผลที่เกิดขึ้นจากการจัดศึกษา การบริหารการศึกษา และการเรียนการสอนจากอดีตจนถึงปัจจุบัน อันจะนำไปสู่การวางแนวทางเพื่อพัฒนา โรงเรียนในอนาคต วิธีการวิจัยประกอบด้วยการวิเคราะห์ จากเอกสารเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ปัญหา และการแก้ปัญหาของโรงเรียนจีนที่ผ่านมา การวิจัยภาคสนามเกี่ยวกับการจัดการศึกษา การบริหารการศึกษา สภาพปัญหา และการแก้ปัญหาที่เป็นอยู่ขณะนี้ของโรงเรียนที่เลือกเป็นตัวอย่าง จากการสังเกตการสัมภาษณ์ เจาะลึก การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของโรงเรียน และการวิจัยทางชาติพันธุ์วรรณาเชิงอนาคตเป็นการ ศึกษาทรรศนะของผู้เชี่ยวชาญทางการวางแผน การกำหนดนโยบายและการบริหารการศึกษา จำนวน 36 คน ด้วยการสัมภาษณ์ และตอบ แบบสอบถามเกี่ยวกับแนวโน้มและทิศทางการพัฒนาโรงเรียนจีนในอนาคต ผลการวิจัย มีดังนี้  1. จากประวัติศาสตร์ชาวจีนอพยพมาอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และมีจำนวนมากขึ้น ได้มีการจัดตั้งโรงเรียนเพื่อสอนบุตรหลานของตนเป็นภาษาจีนและสอนเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศจีนทั้งหมด ใช้หลักสูตรแบบเรียน และครูผู้สอนที่มาจากประเทศจีน ดำเนินการสอนเรื่อยมาจนกระทั่งเกิดปัญหาในช่วงปลายรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อเกิดการปฏิวัติขึ้นในประเทศจีน เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็น สาธารณรัฐ โรงเรียนจีนในเมืองไทยกลายเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดลัทธิการเมืองและแนวความคิดในการปฏิวัติ ชาวจีนจำนวนมากได้ก่อความไม่สงบขึ้นเพื่อช่วยเหลือคณะปฏิวัติในประเทศจีน กระทบถึงการเมืองและความมั่นคงของประเทศไทยอย่างมากเพราะลัทธิการปกครองแตกต่างกันผู้บริหารประเทศไทยตั้งแต่รัชกาลที่ 6 เป็นต้นมาได้ดำเนินการแก้ไขและป้องกันปัญหา อันเกิดจากการเมืองเรื่องนี้ด้วยการออกพระราชบัญญัติโรงเรียนราษฎร์ กำหนดจำนวนโรงเรียนจีนและครูจีนให้อยู่ในจำนวนที่พอเหมาะกับการควบคุมดูแลของกระทรวงศึกษาธิการปรับ หลักสูตรให้สอนเป็นภาษาไทยตามระเบียบให้เรียนภาษาจีนไม่เกินสัปดาห์ละ 5 ชั่วโมงเป็นวิชาเลือก และเปิดสอนได้เพียงระดับประถมศึกษาเท่านั้น ทำให้โรงเรียนจีนหลายแห่งปิดกิจการไป และความนิยมจากชาวจีนรุ่นใหม่ลดน้อยลงไป ตามลำดับ  2. จากสภาพการณ์ปัจจุบันชาวไทยกับชาวจีนมีการผสมผสานกันทางวัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตจนแทบไม่มีความแตกต่างและไม่นำไปสู่ความขัดแย้งเหมือนในอดีตชาวจีน หรือชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดชลบุรียังมีอยู่เป็นจำนวนมาก มีโรงเรียนจีนที่เปิดทำการสอนอยู่ 5 แห่ง สอนตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งปัจจุบันอนุญาตให้สอนภาษาจีนเป็นวิชาเลือก ในกลุ่มประสบการณ์พิเศษ สอนได้สัปดาห์ละ 10 ชั่วโมง รัฐบาลผ่อนคลายกฎระเบียบหลายประการ เพื่อสนับสนุนให้เอกชนลงทุนด้านการศึกษา โรงเรียนที่ไปศึกษาได้รับอนุญาตให้เปิดสอนระดับ อนุบาลได้ สอนพร้อมกัน 3 ภาษา คือภาษาไทย ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ จ้างครูเจ้าของภาษา เป็นผู้สอนโดยตรง แนวทางพัฒนาโรงเรียนของ ผู้บริหารคือจะขยายการสอนเปิดถึงชั้นมัธยมศึกษา จะจัดตั้งเป็นศูนย์ภาษาต่างประเทศ เปิดสอนบุคคลทั่วไปนอกเวลาทำการปรับปรุงสถานศึกษา เพื่อให้มีมาตรฐานตามระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาและเข้าสู่การประเมินคุณภาพสถานศึกษา จัดสวัสดิการเพิ่มเติมให้แก่ครู นอกเหนือ จากที่รัฐกำหนด ส่งเสริมให้ครูไปอบรม สัมมนา ศึกษาต่อเพิ่มพูนคุณวุฒิและพัฒนาระบบการเรียนการสอนให้เป็นโรงเรียนพหุภาษา  3. จากทรรศนะของผู้เชี่ยวชาญให้แนวทางการพัฒนาโรงเรียนว่าภาษาจีนมีความสำคัญ ใช้กันมากในวงการธุรกิจอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว ไทยกับจีนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกันแล้วและจีนมีนโยบายเปิดประเทศมากขึ้น โอกาสทางการค้า การลงทุน และการศึกษา แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับไทยจะมีมากขึ้นด้วยผู้รู้ ภาษาจีนจะได้เปรียบด้านการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพในอนาคต โรงเรียนจีนควรพัฒนาการสอนภาษาให้ผู้เรียนได้ทักษะทางการพูด การฟัง อย่างเป็นธรรมชาติ มีโอกาสฝึกภาษาและใช้ภาษาจริงกับเจ้าของภาษา เพิ่มเติมประสบการณ์ให้ผู้เรียนและผู้สอนด้วยการไปดูงานหรือทัศนศึกษาที่ประเทศจีน รวมทั้งเพิ่มการผลิตครูคนไทย สอน ภาษาจีนได้ให้มากขึ้น เพื่อป้องกันการถ่ายทอดลัทธิการเมืองอย่างที่เราเคยมีมาและร่วมมือกับจีนเพื่อทำวิจัย ค้นคว้าความรู้ใหม่แขนงต่าง ๆ ของไทยและจีนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น  This research aimed to study the development of a special policy school in Chonburi, a case study of a Chinese language teaching school concerning historical background, problems, outcomes of the schooling, and the educational administration from the past to the present in order to provide information for planning in the future. The methodology involved a documentary analysis for school evolution, problems and problem solving of school in the past. The author used a historical approach on the educational management, problems and problem solving of school. The indepth interview with school administrators, teachers, students, school activity participation and observation was also used. An ethnographic future research approach was used to study the opinions of 36 external experts in planning and educational administration field. Questionnaire and interview were used in order to study the opinions on trend and direction of Chinese School development in the future. The research findings were as follows: 1. According to the historical evidences concerning Chinese people and Chinese school evolution, they indicated that Chinese have migrated to Thailand since Ayudhya period. When the number of the population increased there was a need for schooling for their children to study Chinese language. The curriculum was all about Chinese. Teachers and textbooks come from the Mainland China. The schooling went on until the late period of King Rama V. When there was revolution in Mainland China, Chinese schools in Thailand were then used as a bridge for transferring political and revolution beliefs and ideology. Chinese in Thailand at that time caused an uprising in supporting the revolution. This seriously affected the stability of Thai government at that time. Thai government since King Rama VI hasd tried to correct and prevent this political conflict by introducing a Private School Act. The number of Chinese school was limited in order to be able to completely controlled by the Ministry of Education. The Chinese school curriculum was forced to teach only 5 hours a week as an elective subject. The Chinese school can offer Chinese language course not higher than grade 4. This pressure has resulted in the close down of many Chinese schools. The popularity of Chinese school gradually diminished. 2. For the present situation, Thais and Chinese have mixed in cultures and lifestyle. Chinese and Thais were not easily identified. With this good blend, there was no conflict as it was in the past. There are still a lot of Chinese-Thai in Chonburi. There are 5 Chinese school operating in the province using the curriculum of the Ministry of Education. Chinese language is allowed to be taught 10 hours per week as a special experience subject. The Thai government has relaxed the rules in order to promote a private sector to invest in education. The school that the author studied was allowed to teach from preschool level using 3 languages; Thai, Chinese and English. The language instructors are native speakers. The school administra tors planned the expansion of school up to junior high school level. It is planned to be a center for foreign languages for people who want to learn the languages. The school was planned to meet the education standard of the Council of the National Education Standard and Evaluation. Proposing fringe benefit for teachers and staff. School teachers are encouraged to attend seminars, workshops and training in order to move to be a trilingual school in the next 2-3 years  3. The opinions of the 36 educational experts on Chinese school development were that Chinese language is vital for business, industries, and tourism. Thailand has a long diplomatic relationship with china. As China has opened her country, there is more opportunity for Thailand for trading, investment, education and cultural exchanges between the two countries. The people who know Chinese will gain advantage interms of education opportunity and future career. Chinese schools develop her language traching to enable learners to practice their speaking and listening naturally. Schools should provide students with opportunity to practice their language with native speakers. Schools should be managed by native speakers and students have a chance to go to visit Mainland China, Schools should acquire more Thai teachers to teach Chinese in order to avoid the political problem as happened in the past. Chinese schools should work with Chinese experts in conducting research to expand knowledge of Chinese.

Downloads

Published

2024-03-27