ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นแห่งหนึ่ง ในจังหวัดอุบลราชธานี

Authors

  • นิยม จันทร์นวล
  • เมรีรัตน์ มั่นวงศ์
  • พลากร สืบสำราญ
  • สุบรรณ สิงห์โต

Keywords:

พฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์, นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น

Abstract

          การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบภาคตัดขวางเชิงวิเคราะห์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น จังหวัดอุบลราชธานี เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 122 คน สุ่มตัวอย่างแบบ Stratified random sampling และ Simple random sampling วิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิต Binary Logistic Regression ที่นัยสำคัญ 0.05ผลการวิจัย พบว่า นักเรียนมีเพศสัมพันธ์ร้อยละ 27.87 มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกอายุเฉลี่ย 13.03 ปี (S.D. = 0.521) มีเพศสัมพันธ์เพราะความรักร้อยละ 88.24 ปัจจัยที่มี ความสัมพันธ์กับการมีเพศสัมพันธ์ พบว่า สัมพันธภาพของครอบครัว การอ่านหนังสือปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศ การเที่ยวสถานบันเทิง มีความสัมพันธ์กับการมีเพศสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ P=0.047, P=0.042 และ P<0.001 ตามลำดับ โดยนักเรียนที่มีสัมพันธภาพของครอบครัวไม่ดี มีโอกาสที่จะมีเพศสัมพันธ์มากเป็น 5.7 เท่าของนักเรียนที่มีสัมพันธภาพของครอบครัวดี (OR = 5.7, 95%CI = 1.2-26.4) นักเรียนที่อ่านหนังสือปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศมีโอกาสที่จะมีเพศสัมพันธ์มากเป็น 5.7 เท่าของนักเรียนที่ไม่อ่านหนังสือปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศ (OR = 5.7, 95%CI =1.0-32.9) และนักเรียนที่เที่ยวสถานบันเทิงมีโอกาสที่จะมีเพศสัมพันธ์มากเป็น 4.7 เท่าของนักเรียนที่ไม่เที่ยวสถานบันเทิง (OR = 4.7, 95%CI =2.0-11.0) ผู้ปกครอง ควรให้ความสำคัญในการดูแลเอาใจใส่บุตร หลาน ให้คำแนะนำในเรื่องที่จำเป็นในการใช้ชีวิต ช่วยแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมเมื่อบุตรหลานมีปัญหา เพิ่มทักษะที่จำเป็นในการป้องกันการมีเพศสัมพันธ์และผลกระทบจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร สร้างความตระหนักในการรักนวลสงวนตัว และปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อการมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันปัญหาและผลกระทบจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรในอนาคต            This cross sectional analytical research aimed to study factors related to sexual behavior of the lower secondary school students at a school in Ubon Ratchathani Province. Stratified random sampling and simple random sampling were used to select the study samples. Data were collected by questionnaire among 122 students. Binary Logistic Regression at significance level of 0.05 was used for statistical analysis. The results showed that 27.87 percent of students used to have sex. The mean age at first sexual intercourse was 13.03 years (S.D.=0.521) and 88.24 percent have sex because of love. Moreover, family relationship, reading sexual book, going to a night club were statistically significant associated with sexual behavior of students at p-value = 0.047, 0.042 and <0.001, respectively. Students who had unhealthy family relationship had more chance to have sexual activities than those who had a good family relationship (OR = 5.7, 95%CI =1.2-26.4). Students who used to read sex books had more opportunities to have sex than those who did not (OR = 5.7, 95%CI =1.0-32.9). Students who went to night club had more opportunities to have sex than those who did not (OR = 4.7, 95% CI =2.0-11.0). Parents of students should give guidance on what is important in life, helping resolve problems of theirchildren and adding important skills to prevent premature sexual relationship. Finally, self discipline should be raised among the students and proper attitude on having sex should be implemented in order to prevent the premature sexual behavior in the future.

Downloads