การประเมินสิ่งแวดล้อมการทำงาน และภาวะสุขภาพตามความเสี่ยงจากการทำงานของพนักงานในอู่ซ่อมรถยนต์ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา

Authors

  • วิทชย เพชรเลียบ
  • พานิช แก่นกาญจน์
  • ณัฐวรรณ เลิศภิญโญชัยถาวร

Abstract

การศึกษาเชิงพรรณนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินสิ่งแวดล้อมการทำงาน ได้แก่ เสียง ความร้อน ฝุ่น รวมทุกขนาด สารเคมีกลุ่ม สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (เบนซีน โทลูอีน เอทิลเบนซีนและไซลีน) และศึกษาภาวะสุขภาพตามความเสี่ยงจากการทำงานของพนักงานในอู่ซ่อมรถยนต์ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยประเมินสิ่งแวดล้อมการทำงานจากอู่ซ่อมรถยนต์ 8 แห่งด้วยเครื่องมือตรวจวัดทางสุขศาสตร์อุตสาหกรรม และใช้แบบสอบถามเก็บข้อมูลพนักงาน 114 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการทดสอบไคสแควร์ ผลการศึกษา พบว่า การประกอบกิจการส่วนใหญ่เป็นธุรกิจแบบห้างหุ้นส่วน ร้อยละ 62.5 ให้บริการลูกค้าเฉลี่ยวันละ 3 คัน ผลสิ่งแวดล้อมการทำงานพบว่า ระดับเสียงอยู่ในช่วง 60.5-77.0 dB(A) ระดับความร้อน มีอุณหภูมิอยู่ในช่วง 27.7-30.6 °C ปริมาณฝุ่นรวมทุกขนาด มีปริมาณอยู่ในช่วง 1.2-2.9 mg/m3 ส่วนปริมาณเบนซีน โทลูอีน เอทิลเบนซีน และไซลีน มีปริมาณอยู่ในช่วง 0.003-0.017 ppm, 0.003-0.990 ppm, 0.003-0.266 ppm และ 0.004-0.166 ppm ตามลำดับ สิ่งแวดล้อมการทำงานที่ศึกษานี้มีค่าไม่เกินมาตรฐานในการทำงาน ผลภาวะสุขภาพตามความเสี่ยงจากการทำงาน พบว่า กลุ่มช่างพ่นสีมีอาการระคายเคืองตา แสบตา และอาการแสบจมูก น้ำมูกไหลสูงกว่ากลุ่มช่างทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) และพบอาการปวดหลังในกลุ่มช่างทั่วไปสูงกว่ากลุ่มช่างพ่นสีอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ดังนั้นสถานประกอบการควรตระหนักถึงความสำคัญของการเฝ้าระวังสุขภาพ และการเฝ้าระวังทางสิ่งแวดล้อม ที่ส่งผลต่อความปลอดภัยในการทำงานของพนักงาน          The objective of this study was to assess of working environment include noise, heat, total dust, volatile organic compounds (benzene, toluene, ethyl benzene, xylene), and determine health status related to risk at work among workers in automotive repair shops at Muang District, Nakhon Ratchasima Province. Assessment of working environment was conducted from 8 automotive repair shops using industrial hygiene instruments. A questionnaire was used to collect data from 114 workers. The data were analyzed using descriptive statistics and chi-square test. The results showed that 62.5% of business operations were partnerships. An average of 3 cars were repaired per day. The results of working environment revealed that level of noise was 60.5-77.0 dB(A), temperature 27.7-30.6 °C and the concentration of total dust was 1.2-2.9 mg/m3. The concentration of benzene was 0.003-0.017 ppm, toluene 0.003-0.990 ppm, ethyl benzene 0.003-0.266 ppm and xylene 0.004-0.166 ppm, respectively. Working environment in this study were lower than the standard values. The prevalence of eye irritation and of burning nose sensation, and runny nose of spray painting workers were statistically significantly higher than those of maintenance technicians (p < 0.05). The prevalence of back pain of maintenance technicians was statistically significantly higher than spray painting workers (p < 0.05). Therefore, automotive repair shops should recognize the importance of health and environmental surveillance, contributing to safety at work among workers.

Downloads

Published

2022-11-01