เกณฑ์ปกติมาตรฐานการพัฒนาสถานศึกษาเอกชนขั้นพื้นฐานสู่ความเป็นเลิศ

Abstract

บทคัดย่อ         การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาองค์ประกอบของการพัฒนาสถานศึกษาเอกชนขั้นพื้นฐานสู่ความเป็นเลิศ และเพื่อสร้างเกณฑ์ปกติมาตรฐานความเป็นเลิศของสถานศึกษาเอกชนขั้นพื้นฐาน หน่วยในการวิเคราะห์ คือ โรงเรียนเอกชนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน หน่วยในการวิเคราะห์ คือ โรงเรียนเอกชนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 214 แห่ง ผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้บริหารโรงเรียนเอกชนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 214 คน โดยใช้เกณฑ์การกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างของเครจซีและมอร์แกน (Krejcie & Morgan, 1970, p. 608) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สันค่าไค-สแควร์ ค่าดัชนีบอกความกลมกลืน ค่าดัชนีบอกความกลมกลืนที่ปรับแก้แล้วและค่าความความคลาดเคลื่อนในการประมาณค่าพารามิเตอร์         ผลการวิจัยพบว่า (1) องค์ประกอบหลักของการพัฒนาสถานศึกษาเอกชนขั้นพื้นฐานสู่ความเป็นเลิศ คือ ด้านภาวะผู้นำ ด้านการสร้างทีมงาน ด้านการจัดระบบบริหาร  ด้านการมุ่งเน้นผู้เรียนและผู้ที่เกี่ยวข้อง ด้านการวางแผนเชิงกลยุทธ์ด้านการประเมินตนเอง และด้านสารสนเทศ ซึ่งทั้ง 7 องค์ประกอบ ประกอบด้วยตัวบ่งชี้ 20 ตัวบ่งชี้ ผลการตรวจสอบความเที่ยงตรงของโมเดลเชิงโครงสร้างการพัฒนาสถานศึกษาเอกชนขั้นพื้นฐานสู่ความเป็นเลิศกับข้อมูลเชิงประจักษ์โดยใช้ค่าไค-สแควร์ ค่าดัชนีบอกความกลมกลืน และค่าดัชนีบอกความกลมกลืนที่ปรับแก้แล้ว ทดสอบสมมติฐานในการวิจัย พบว่า โมเดลมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (2) เกณฑ์ปกติในการประเมินการพัฒนาสถานศึกษาเอกชนขั้นพื้นฐานสู่ความเป็นเลิศมากที่สุดที่ 4.98 องค์ประกอบด้านการสร้างทีมงาน มีเกณฑ์ปกติที่ระดับความเป็นเลิศมากที่สุดที่ 4.05 องค์ประกอบด้านการจัดระบบบริหารมีเกณฑ์ปกติที่ระดับความเป็นเลิศทากที่สุดที่ 5.05 เป็นองค์ประกอบด้านการมุ่งเน้นผู้เรียนและผู้ที่เกี่ยวข้อง มีเกณฑ์ปกติที่ระดับความเป็นเลิศมากที่สุดที่ 5.11          องค์ประกอบด้านการวางแผนเชิงกลยุทธ์ มีเกณฑ์ปกติที่ระดับความเป็นเลิศมากที่สุดที่ 5.05 องค์ประกอบด้านการประเมินตนเอง มีเกณฑ์ปกติที่ระดับความเป็นเลิศที่มากที่สุดที่4.61 และองค์ประกอบด้านสารสนเทศ มีเกณฑ์ปกติที่ระดับความเป็นเลิศมากที่สุดที่ 3.85ABSTRACT              The objectives of this research were to find out the factors of excellent private school development, as well as to construct the standard normal criteria of excellent private school. The samples used in this study were 214 basic education private school principles, derived by Krejcie & Morgan (1970, p. 608) sample sized table. The research instrument was5 rating scale questionnaire. The statistical devices used in this research were mean, standard deviation, simple correlation, Chi-square test, Goodness of fit index, Adjusted goodness of fit index and Root mean squares error of approximation. The finding revealed 1) The main dimensions of standard normal criteria of excellent private school were leadership, team work building, management system, customer concentrations, strategic planning, self evaluation and information management by which consisted of 20 indicators.  The validity of the model for the standard normal criteria of excellent private school was validated. In addition, the empirical data were analyzed with Chi-square test, Goodness of fit (GFI) and Adjusted goodness of fit (AGFI) to test the research hypothesis and found that the model was harmonious with the empirical data with statistically significant difference at .01 level. 2) The highest level of standard normal criteria for the evaluation of excellent private school; in the dimension of leadership was 4.98, team work building was 4.05, management system was 5.05, customer concentration was 5.11, strategic planning was 5.05, self evaluation was 4.61 and information management was 3.85 respectively.