ความคิดเห็นของนิสิตมหาวิทยาลัยบูรพาเกี่ยวกับความรุนแรงในผู้หญิงที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว

The Opinion of Burapha University Students on Domestic Violence Against Women

Authors

  • จิรัชญา บุรีรัตน์
  • อุษณากร ทาวะรมย์
  • สุปราณี ธรรมพิทักษ์

Keywords:

ความรุนแรงในครอบครัว, ความคิดเห็น, นิสิต, Domestic Violence, Opinion, Student

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์คือ เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนิสิต มหาวิทยาลัยบูรพา เกี่ยวกับความรุนแรงในผู้หญิงที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว และเพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของนิสิต มหาวิทยาลัยบูรพาเกี่ยวกับความรุนแรงในผู้หญิงที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว กลุ่มตัวอย่างคือ นิสิตมหาวิทยาลัยบูรพา จำนวน 440 คน เครื่องมือวิจัยคือ แบบสอบถาม และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า นิสิตมีความคิดเห็นว่าความรุนแรงในผู้หญิงที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวนั้นอยู่ในระดับปานกลาง โดยเป็นความรุนแรงด้านวาจา มากที่สุด รองลงมาคือ ด้านร่างกาย และด้านจิตใจ ทั้งนี้ นิสิตมีความคิดเห็นว่า (1) “ในสังคมปัจจุบัน การที่สามีพูดจาเหยียดหยามเพื่อเป็นการดูถูกเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม” อยู่ในระดับมาก (2) “ในสังคมปัจจุบัน ท่านมักจะเห็นบุคคลในครอบครัวพูดจาด่าทอกัน” อยู่ในระดับมาก และ (3) “ในสังคมปัจจุบัน ท่านมักจะเห็นผู้หญิงถูกสามีทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธ เช่น ท่อนไม้ ปืน เก้าอี้ เป็นต้น” อยู่ในระดับมาก ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของนิสิต พบว่า นิสิตที่สังกัดคณะวิชาที่ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05  This research aims to study the opinions of Burapha University student about domestic violence against women and to compare the opinions of Burapha University student about domestic violence against women. The samples were 440 students, and the research instrument was a questionnaire. The statistic used to analyze the data were percentage, mean, standard deviation, t-test, and One-Way ANOVA. The results were; the students expressed their opinions that violence against women in the family was at a moderate level. Verbal violence was the highest, followed by physical and mental. The students expressed their opinions as follows: (1) “In today's society, it is inappropriate for a husband to speak abusively as an insult” to a large extent (2) “In today's society, you often see people in family talk and insult each other” at a large level and (3) “In today's society, you often see husbands abuse their wives with weapons such as a log, a gun, a chair” at a large level. When comparing the opinions of students about domestic violence against women, it was found that in personal factors, different faculties received a significantly different level of opinions about domestic violence against women with the statistical level of 0.05.

References

จารุมาศ แสงสว่าง, ทองสา บุตรงาม และเขมิกา อารมณ์. (2563). การศึกษาทัศนคติของประชาชนที่มีต่อการใช้ความรุนแรงต่อเด็กและสตรีในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์. ใน การประชุมวิชาการระดับชาติ “ราชมงคลสุรินทร์ ครั้งที่ 11” “วิจัยและนวัตกรรมวิถีใหม่”. ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์.

จินตนา วัชรสินธุ์ และคณะ. (2561). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความรุนแรงในครอบครัวของเด็กวัยเรียน. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 5(2), 189-200.

จุรี วิจิตรวาทการ. (2541). ปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก และสตรี. กรุงเทพฯ: กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.

ธีระญา ปราบปราม. (2557). ความรุนแรงในครอบครัวสิทธิส่วนตัวสิทธิที่รัฐต้องเหลียวแล. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์, 4(1), 173-186.

นญา พราหมหันต์. (2560). ทายาทความรุนแรง : แนวคิดการประกอบสร้างทางสังคมต่อการจัดการประสบการณ์ความรุนแรง. กรุงเทพฯ: คณะรัฐศาสตร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

นิรมล บางพระ. (2560). รายงานวิจัยความรุนแรงต่อสตรีในละครโทรทัศน์ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมความรุนแรงของเพศชายในเขตกรุงเทพมหานคร. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี.

สำนักข่าวไทยพีบีเอส. (2563). เปิดสถิติความรุนแรงในครอบครัว "แม่ - เมีย" ถูกทำร้ายสูงขึ้น. วันที่ค้นข้อมูล 22 กรกฎาคม 2566, เข้าถึงได้จาก: https://news.thaipbs.or.th/content/295351

ปพิชญา สุนทรพิทักษ์. (2562). ประสบการณ์ของสตรีที่ผ่านพ้นปัญหาความรุนแรงในครอบครัว กรณีศึกษามูลนิธิหญิงชายก้าวไกล, หลักสูตรสังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ภควดี ศรีประเสริฐ. (2548). ความรุนแรงในครอบครัว: กรณีการถูกทำร้ายของภรรยา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

วัลวิสา สิงโตทอง. (2560). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ในเขตพื้นที่อําเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.

วิลาสินี พิพิธกุล และกิตติ กันภัย. (2546). เพศและการสื่อสารในสังคมไทย. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ศิริวรรณ ไกรสุรพงศ์. (2543). ความรุนแรงต่อผู้หญิง. ใน เอกสารประกอบการสัมมนาของมูลนิธิเพื่อนหญิง ณ บ้านริมอ่าว สมุทรสาคร. ในวันที่ 26-27 พฤษภาคม พ.ศ. 2544.

สิบจังหวัดติดอันดับรุนแรงในครอบครัว รุกสร้างภูมิคุ้มกันปรับทัศนคติ. (2560). วันที่ค้นข้อมูล 22 กรกฎาคม 2566, เข้าถึงได้จาก https://www.thairath.co.th/news/society/1125304

สุวัฒนา เกิดม่วง และคณะ. (2560). การได้รับความรุนแรงในครอบครัวของเด็กหญิงและสตรีจังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 5(4), 643-660.

สำนักข่าวอิศรา. (2563). มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลรายงานความรุนแรงในครอบครัวช่วงโควิด-วงเสวนาเผยสามีทำร้ายเพราะรายได้ลดลง. วันที่ค้นข้อมูล 22 กรกฎาคม 2566, เข้าถึงได้จาก https://www.isranews.org/article/isranews-news/91049-covid19issue.html

องค์การอนามัยโลก. (2013). ความหมายของความรุนแรงในครอบครัว. วันที่ค้นข้อมูล 22 กรกฎาคม 2566, เข้าถึงได้จาก https://www.who.int/thailand

เอสบีเอส นิวส์. (2021). 1 ใน 3 ของผู้หญิงทั่วโลกเป็นเหยื่อความรุนแรง. วันที่ค้นข้อมูล 22 กรกฎาคม 2566, เข้าถึงได้จาก https://www.sbs.com.au/language/thai/one-in-three-women-worldwide-is-a-victim-of-physical-or-sexual-violence-new-report-shows

Downloads

Published

2024-07-10