การศึกษา การใช้สมุนไพรของผู้ติดเชื้อเอดส์ และผู้ป่วยโรคมะเร็ง

Survey of medicinal plants, animal parts and minerals applied to HIV and cancer patients

Abstract

          โรคเอดส์และโรคมะเร็งยังเป็นโรคที่การแพทย์ แผนปัจจุบันไม่สามารถรักษาให้หายได้ ไม่เพียงแต่โรค ดังกล่าวก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ป่วย แต่ยังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม เพราะต้องพึ่งพา เวชภัณฑ์ยาจากต่างประเทศ ในขณะที่ประเทศไทย เป็นแหล่งที่มีศิลปวัฒนธรรมทางด้านการรักษาด้วย สมุนไพรมาช้านานนับร้อยปี วัตถุประสงค์เพื่อศึกษา การใช้สมุนไพร ชื่อ ชนิดและส่วนประกอบของสมุนไพร รวมทั้งความคิดเห็นต่อการใช้สมุนไพร กลุ่มตัวอย่าง ได้จากการสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง ได้ผู้ติดเชื้อเอดส์ 301 ราย และผู้ป่วยโรคมะเร็ง 226 ราย เก็บรวบรวมข้อมูล โดยการสัมภาษณ์และวิเคราะห์ด้วยสถิติพรรณา ผลการวิจัยพบว่าผู้ติดเชื้อเอดส์ใช้สมุนไพรร่วมกับยาแผนปัจจุบัน ร้อยละ 79.8 ใช้รับประทาน ร้อยละ 80.1  ระยะเวลาการใช้สมุนไพรต่ำกว่า 1 ปี ร้อยละ 79.1 การดําเนินโรคอยู่ในระยะโรคเอดส์เต็มขั้น ร้อยละ 57.1 ระยะเวลาการเจ็บป่วย 1-2 ปี ร้อยละ 36.2 แรงจูงใจการใช้สมุนไพรได้จากบุคคลแนะนํา ร้อยละ 47.8 อัตรา ค่ารักษาด้วยสมุนไพร 0-100 บาท/ชุด ร้อยละ 61.5 การรู้จักชื่อสมุนไพรที่ใช้ ร้อยละ 76.7 ชนิดสมุนไพรที่ ใช้ได้จากพืช ร้อยละ 88.7 ส่วนประกอบสมุนไพรได้ จากผลเป็นส่วนใหญ่ผู้ป่วยไม่ทราบแหล่งที่ได้สมุนไพร ร้อยละ 51.5 ความคิดเห็นต่อผลการใช้สมุนไพร รู้สึกอาการดีขึ้น ร้อยละ 71.8 ความพึงพอใจต่อการใช้ ร้อยละ 69.8 ความสนใจที่จะใช้สมุนไพรในอนาคต ร้อยละ 90.0 ราคาสมุนไพรไม่แพง ร้อยละ 77.4 การแนะนําให้ผู้อื่น ใช้สมุนไพร ร้อยละ 70.8 ต้องการให้โรงพยาบาลหรือ สถานบริการของรัฐใช้สมุนไพร ร้อยละ 94.4 สําหรับ ผู้ป่วยโรคมะเร็งใช้สมุนไพรแบบตํารับ ร้อยละ 55.8 ใช้รับประทาน ร้อยละ 96.6 ระยะเวลาการใช้สมุนไพรต่ำกว่า 1 ปี ร้อยละ 82.7 การดําเนินโรคอยู่ในระยะ เนื้องอกปฐมภูมิร้อยละ 47.8 ระยะเวลาการเจ็บป่วยต่ำกว่า 1 ปี ร้อยละ 53.5 แรงจูงใจในการใช้สมุนไพรได้ จากบุคคลแนะนำ ร้อยละ 89.9 อัตราค่ารักษาด้วยสมุนไพร 101-500 บาท/ชุด ร้อยละ 41.2 รู้จักชื่อสมุนไพรที่ใช้ ร้อยละ 70.4 ชนิดสมุนไพรที่ใช้ได้จากพืช ร้อยละ 74.8 ส่วนประกอบสมุนไพรได้จากดอกเป็นส่วนใหญ่ ผู้ป่วยทราบแหล่งที่ได้สมุนไพร ร้อยละ 63.7 ความคิดเห็นต่อการใช้สมุนไพร รู้สึกอาการไม่ดีขึ้น ร้อยละ 50.5 ความพึงพอใจต่อการใช้ ร้อยละ 48.6 ความสนใจที่จะใช้สมุนไพรในอนาคต ร้อยละ 54.9 ราคาสมุนไพรไม่แพ งร้อยละ 56.6 ไม่แนะนำให้ผู้อื่นใช้สมุนไพร ร้อยละ 56.2 ต้องการให้โรงพยาบาล หรือสถานบริการของรัฐใช้สมุนไพร ร้อยละ 65.5 สรุป ส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อเอดส์ และผู้ป่วยโรคมะเร็งมีความต้องการให้โรงพยาบาล และสถานบริการของรัฐเปิดบริการ การรักษาด้วยสมุนไพร ควบคู่ไปกับการรักษาแผนปัจจุบัน เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ป่วย  HIV and cancer diseases cannot be cured by modern medicine. These two kinds of sickness not only cause troubles to the patients, but also have a considerable impact on the country's economy in terms of imported foreign medicine. Thailand has been engaged in the development of traditional herbal medicine for more than a hundred years and is the one of well know countries in herbal therapeutics. The objectives of the research are to study how HIV and cancer patients use herbs to cure themselves, whether they could describe name, type and composition of herbs used and their opinions toward the herbs and health outcomes. Data was collected by purposive sampling. The subjects included 301 HIV infected patients and 226 cancer patients. The data was obtained through interview and analyzed by using descriptive statistics. It was found that 79.8% of the HIV patients had the pattern of herbal therapeutics along with modern medicine ; 80.1% used herbs by consuming them ; 79.1% had the duration of herbal therapeutics less than one year ; and 57.1% were in the duration of disease progression which was in the stage of fullborne AIDS. There were 36.2% which were in the duration of 1-2 years ; 47.8% of the patients using herbal therapeutics were motivated by other persons. Regarding the expenses for herbal therapeutics, 61.5% spent 0-100 baht per dosage. Moreover, 76.7% of the HIV patients knew the name of herbs they were using ; 88.7% knew that herbs' types were from plants. Mostly, the components of herbs used were fruits ; and 51.5% did not know exactly the sources of those herbs. Regarding the opinions toward therapeutics, 71.8% felt better ; 69.8% were pleased with therapeutics ; 90% of the patients were willing to continue using therapeutics in the future ; 77.4% thought that the price of herbs was not high ; 70.8% would like to advise other patients to use therapeutics ; and 94.4% would like hospitals or public health service centers to use therapeutics. In case of the cancer patients, 55.8% had the pattern of traditional therapeutics ; 96.6% used herbs by consuming them ; 82.7% had the duration of herbal therapeutics less than one year : and 47.8% were in the duration of disease progression which was in the stage of primary tumors. There were 53.5% which were in the duration less than one year ; and 89.9% of the patients using herbal therapeutics were motivated by others. Regarding the expenses for herbal therapeutics ; 41.2% spent 101-500 baht per dosage. Moreover, 70.4% of the cancer patients knew the names of herbs they were using : 74.8% knew that herbs’ types were from plants. Mostly, the components of herbs used were are flowers. Regarding the sources of herbs, 63.7 of the patients knew them. In view of the opinions toward the results of therapeutics ; 50.5% did not feel better ; 48.6 % were pleased with therapeutics ; 54.9% were willing to continue using therapeutics in the future ; 56.6 % thought that the price of herbs was not high ; 56.2% would not like to advise other patients to use therapeutics ; and 65.5% suggested that hospitals and public health service centers should use therapeutics too.   Conclusion : Most of HIV and cancer patients requested that health care providers should offer herbal therapeutic along with modern medicine as another alternative treatment for them.