ผลการพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดระยะเฉียบพลันโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์

Effects of Clinical Nursing Practice Guidelines for Acute Ischemic Stroke Patients at Prachuap Khiri Khan Hospital

Abstract

การวิจัยและพัฒนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดระยะเฉียบพลัน และประเมินผลลัพธ์ของการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลที่พัฒนาขึ้น ดำเนินการเป็น 3 ระยะ คือ 1) ระยะวิเคราะห์สถานการณ์ 2) ระยะดำเนินการพัฒนา และ 3) ระยะประเมินผล กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยเวชระเบียนของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดระยะเฉียบพลันที่เข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ก่อนใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกระหว่างเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2563 ทุกรายรวม 60 ราย และหลังใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกระหว่างเดือนกรกฎาคม - พฤศจิกายน 2564 ทุกรายรวม 67 ราย การเก็บข้อมูลใช้แบบเก็บรวบรวมข้อมูลที่สร้างขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ความถี่ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และการทดสอบค่าที ผลการวิจัยพบว่า แนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดระยะเฉียบพลันที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย การประเมินผู้ป่วย 6 หัวข้อ และการจัดการภาวะแทรกซ้อน 8 หัวข้อ และพบว่า ภายหลังการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิก คะแนนเฉลี่ยการได้รับการปฏิบัติการพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดระยะเฉียบพลันสูงกว่าก่อนการใช้แนวปฎิบัติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ร้อยละของผู้ป่วยที่มีอาการดีขึ้นและร้อยละของผู้ป่วยที่ไม่พบภาวะแทรกซ้อนสูงกว่าก่อนการใช้แนวปฏิบัติ แนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดระยะเฉียบพลันที่พัฒนาขึ้นนี้ ควรนำไปใช้ในการดูแลผู้ป่วยที่เข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล การชี้แจงในรายละเอียดและความจำเป็นในการปฏิบัติแต่ละกิจกรรมอย่างครบถ้วนและต่อเนื่อง จะส่งผลให้ผลการรักษาของผู้ป่วยดีขึ้นและลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วย  This study aimed to develop clinical nursing practice guidelines for acute ischemic stroke patients and evaluate the effects of using the guidelines. The study was divided into three main phases: 1) situational analysis, 2) development, and 3) evaluation. The developed clinical nursing practice guidelines for acute ischemic stroke patients consisted of 6 patient assessment measures and 8 management complication measures. The data were the medical records of 127 acute ischemic stroke patients: 60 who were admitted to Prachuap Khiri Khan Hospital before implementation of the clinical nursing practice guidelines (October - December 2020) and 67 who were admitted after implementation of the clinical nursing practice guidelines (July - October 2021). The medical records data were analyzed statistically by frequencies, percentages, means and t-tests. The results showed that, after implementation of the clinical nursing practice guidelines, the average score of the acute ischemic stroke patients’ received clinical nursing practices under the new nursing practice guidelines was significantly higher (p < .05) than that of the nursing practices for such patients treated prior to the implementation of the guidelines.  Patient percentages with improved symptoms and without complications were higher than those before the implementation of the guidelines. Thus these newly-developed clinical nursing practice guidelines for hospitalized acute ischemic stroke patients should be used in the care of such patients. Instruction to clarify guideline details and regarding the necessity of performing each activity completely and continuously will result in better patient outcomes and reduced incidence of complications.