การประเมินกิจกรรมทางน้ำของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เกาะล้าน

Authors

  • ฉัตรีกานต์ ทองประดา
  • สุชนนี เมธิโยธิน
  • กชพร นรมาตย์
  • อำนาจ สาลีนุกูล

Keywords:

กิจกรรมทางน้ำ, นักท่องเที่ยวชาวจีน, เกาะล้าน

Abstract

         การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลของนักท่องเที่ยวแตกต่างกันมีการประเมินกิจกรรมทางน้ำแตกต่างกัน เพื่อศึกษาพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีนแตกต่างกันมีการประเมินกิจกรรมทางน้ำ แตกต่างกันและเพื่อศึกษาการวางแผนกิจกรรมทางน้ำที่เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี โดยมีการวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Method) คือในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพซึ่งเป็นการจัดทำแบบสอบถามแบบปิด (Close Question) โดยกำหนดตัวเลือกของคำตอบไว้เรียบร้อย โดยเก็บแบบสอบถามกับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเล่นกิจกรรมทางน้ำที่เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี จำนวน 300 ชุด และแบบเปิด (Open Question) โดยสัมภาษณ์กับกลุ่มบริษัททัวร์คู่ค้า ที่พานักท่องเที่ยวชาวจีนมาท่องเที่ยวเกาะล้าน จังหวัดชลบุรี จำนวน 5 บริษัท          ผลการวิจัย พบว่า ผู้ที่ตอบแบบสอบถาม ส่วนใหญ่พฤติกรรมการท่องเที่ยว โดยมีเป้าหมายในการท่องเที่ยวคือเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ, มีผู้ร่วมเดินทางท่องเที่ยวเป็นครอบครัว/ ญาติ, มีประสบการณ์เยือนประเทศไทยที่ ครั้งแรก, มีกิจกรรมนันทนาการเป็นดำน้ำดูปะการัง, การประเมินกิจกรรมทางน้ำ อันดับแรกคือ Sea walking (เดินใต้น้ำ) ลำดับสองคือ Jet Ski มีอันดับสามคือ Parasailing ( ลากร่ม) ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลของนักท่องเที่ยวแตกต่างกันมีการประเมินกิจกรรมทางน้ำ ไม่แตกต่างกัน เป้าหมายของการท่องเที่ยว ผู้ร่วมเดินทางท่องเที่ยว ภูมิภาคที่ต้องการเยือนแตกต่างกันมีการประเมินกิจกรรมทางน้ำ แตกต่างกัน ผลการสัมภาษณ์กลุ่มบริษัททัวร์คู่ค้า จำนวน 5 บริษัท ที่พานักท่องเที่ยวชาวจีนมาท่องเที่ยวเกาะล้าน จังหวัดชลบุรี พบว่า พฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมเที่ยวตามหมู่เกาะและเกาะล้านยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีน เพราะเกาะล้านเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมทางทะเลที่หลากหลาย กิจกรรมทางน้ำควรเน้นเรื่องความปลอดภัยทางทะเลควรมีไลฟ์การ์ดประจำหาด ควรมีการเน้นด้านบริการให้มีมาตรฐาน มีการเอาใจใส่ ยิ้มแย้มแจ่มใส ใส่ใจลูกทัวร์              The purposes of this research were to study to whether tourists with different personal factors and different behavior had difference in water activity assessments and to study water activity planning at Koh Larn in Chonburi Province. Mix method of quantitative and qualitative research was used. In quantitative research, a closed questionnaire with multiple choices was used. The data were from 300questionnaires collecting from Chinese tourists who visiting Koh Larn for water activities. In qualitative research, open questions were used to interview representatives of five tour companies. The data were analyzed using SPSS (Statistical Package for Social Sciences) program for frequency, percentage, mean and standard deviation. The hypothesis testing was performed using the Independent Sample t-test. In addition, one-way analysis of Variance was used to test the difference of the mean of the samples of more than 2 groups, and the significance level was set at 0.05.             The results showed that in Chinese tourists’ travel behavior, most respondents (50.0 %) had the goal to travel for leisure. Their travel companions were people in their family/ relatives (32.7%). They had their first visit to Thailand (54.3%). They participated in snorkeling and diving activities (29.0%) They had 2,001-3,000 yuan travel expenses (36.3%). The Chinese tourists were interested in visiting the central region (38.3%). For water activity assessment, sea walking (underwater walking) had average of 4.46 which was at the highest level. The hypothesis test showed that the tourists with different personal factors had no difference in water activity assessment. Tourists with different goals of tourism, travel companions, regions to visit had difference in water activity assessment. The results of the interviews with 5 representatives of tour companies revealed that for water activities, the companies should focus on safety and they should have adequate lifeguards for the increasing tourists and they should focus on service standards. The company staff should be caring and should smile and pay attention to tourists.

Downloads