โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การของผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยของรัฐ
Keywords:
พฤติกรรมองค์การ, จิตวิญญาณ, ความสุข, พนักงานมหาวิทยาลัยAbstract
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การของผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยของรัฐและตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลกับข้อมูลเชิงประจักษ์กลุ่มตัวอย่างจำนวน 420 คนเป็นผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยของรัฐในจังหวัดชลบุรี ปีการศึกษา 2556 ได้แก่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตศรีราชาและมหาวิทยาลัยบูรพาใช้วิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอนเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่แบบสอบถามวิเคราะห์ค่าสถิติพื้นฐานโดยใช้โปรแกรม SPSS และวิเคราะห์โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุโดยใช้โปรแกรมLISREL 8.80 ผลการวิจัยปรากฏว่าโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การของผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยของรัฐมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์พิจารณาจากค่าสถิติไค-สแควร์เท่ากับ46.56 ค่าdfเท่ากับ 36 ค่าpเท่ากับ .11 ดัชนี GFI เท่ากับ .98 AGFI เท่ากับ .96 CFI เท่ากับ 1.00 SRMR เท่ากับ .01RMSEA เท่ากับ .02 ตัวแปรทั้งหมดในโมเดลสามารถอธิบายความแปรปรวนของพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การของผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยของรัฐได้ร้อยละ 36 เชาวน์ด้านจิตวิญญาณมีอิทธิพลทางตรงต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การและมีอิทธิพลทางอ้อมผ่านความสุขส่วนความสุขมีอิทธิพลทางตรงต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าผู้ปฏิบัติงานที่มีเชาวน์ด้านจิตวิญญาณสูงจะมีความสุขในการทำงานและส่งผลให้เกิดพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การ The purpose of this research was to develop and validate a causal relationship model comprisingfactors affecting organizational citizenship behavior in university staff. The sample derived by means of multi-stagerandom sampling, consisted of 420 public university staffs from Kasetsart University (Siracha Campus) andBurapha University (academic year 2013). The research instrument was a questionnaire. Descriptive statisticswere generated using SPSS; causal modeling involved in the use of LISREL 8.80. The results indicated that the hypothetical model was consistent with the empirical data asdemonstrated by the following fit measures: chi-square test = 46.56, df= 36, p=.11, GFI = .98, AGFI = .96,CFI = 1.00, SRMR = .01, RMSEA = .0 2. All variables in the model accounted for 36% of the total variance inorganizational citizenship behavior. The spiritual quotient variable had a direct effect on organizationalcitizenship behavior and an indirect effect through happiness, while happiness itself had a direct effect onorganizational citizenship behavior. In conclusion, public university staff with higher scores on spiritual quotient would be happier in their work, and perform better organizational citizenship behavior.Downloads
Issue
Section
Articles